ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

Hedge คืออะไร? หลักการทำ Hedging เพื่อป้องกันการขาดทุน

การทำ Hedging ในตลาดการเงินเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะทำการ Hedging ในรูปแบบของการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures contract) เนื่องจากกลยุทธ์นี้ช่วยป้องกันการเทรดขาดทุนได้ พูดง่ายๆ ก็คือการ Hedging จะช่วยลดปริมาณการขาดทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุนรูปแบบอื่นๆ

None

เอาล่ะ! ก่อนจะไปดูกันชัดๆ ว่า Hedge คืออะไร? แล้ว Hedging มีหลักการอย่างไร? มาพูดถึงกลยุทธ์นี้แบบคร่าวๆ กันก่อน การ Hedge เป็นเทคนิคในการลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับการลงทุน โดยการเปิดคำสั่งซื้อที่ให้ผลลัพธ์เป็นบวกไปหักล้างกับที่ขาดทุนเพื่อปรับพอร์ตให้กลับมาสมดุล จะว่าเป็นหลักประกันความปลอดภัยในพอร์ตหุ้นก็ยังได้

วิธีใช้กลยุทธ์ Hedging

การ Hedge เป็นเหมือนแผนรองรับความเสี่ยงที่นักลงทุนใช้ในการคุ้มครองความเสี่ยงจากการลงทุน การเทรดตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการ Hedge โดยการทำสัญญาซื้อขายที่มีการระบุราคาไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นขาดทุนจากราคาหุ้นที่กลับตัวแบบไม่ทันตั้งตัว

วิธีการลดความเสี่ยงจากมูลค่าตราสารที่ลดลง คือ การหาสมดุลราคาก่อนเริ่มลงทุน นี่จึงเป็นสาเหตุที่นักลงทุนหลายรายเลือกเทรด สัญญา Futures เนื่องจากสามารถทำข้อตกลงเกี่ยวกับราคาซื้อขายหุ้นล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องมาคอยกังวลปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ในตลาด โดยหากราคาหุ้นร่วง ฝั่งขายก็ยังสามารถทำกำไรได้ดี และฝั่งซื้อก็สามารถซื้อหุ้นได้ในราคาถูก ณ จังหวะที่หุ้นตก โดยที่ฝ่ายขายเองก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์ใดๆ

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ตัวอย่างกลยุทธ์ Hedging

นักเทรด Hedger หรือผู้ที่ใช้กลยุทธ์การ Hedge มีเทคนิคและวิธีการที่แตกต่างกัน โดยนักเทรด Hedge มืออาชีพมักจะนำเทคนิคหลายๆ แบบมารวมกันเพื่อให้ผลลัพธ์นั้นออกมาดีที่สุด ซึ่งหลักการ Hedging โดยทั่วไปที่นิยมใช้กัน ได้แก่:

  1. กระจายการลงทุน (Diversification) ท่านคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” แล้วใช่ไหมครับ สำหรับการลงทุนก็เช่นกัน แทนที่จะลงทุนตราสารใดตราสารหนึ่งเพียงอย่างเดียว ลองกระจายการลงทุนไปในตราสารอื่นๆ บ้างเพื่อกระจายความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด
  2. อาร์บิทราจ (Arbitrage) การทำอาร์บิทราจ คือ การซื้อสินทรัพย์หนึ่งๆ แล้วนำไปขายต่อทันที แต่เป็นการขายในตลาดอื่นแทน ซึ่งแน่นอนว่าต้องขายได้ในราคาที่สูงกว่า โดยถึงแม้เทคนิคนี้จะให้ผลตอบแทนไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ใช้ทำรายได้แบบมั่นคงได้
  3. การถัวเฉลี่ยขาลง (Average down) กลยุทธ์นี้เป็นเทคนิคการ Hedging ที่เหมาะสมหากท่านต้องการซื้อสินทรัพย์ตัวเดียวในปริมาณมากๆ โดยหลักการคือการซื้อหุ้นหลายๆ ตัว ณ ราคาที่ถูกลงเพื่อถัวเฉลี่ยราคาและรอทำกำไรเมื่อราคากลับตัวขึ้น
  4. ถือเงินสดบางส่วน กลยุทธ์นี้คือการนำเงินออกมาลงทุนแค่บางส่วน และเก็บเงินลงทุนที่เหลือในสภาพเงินสดเอาไว้เพื่อป้องกันการขาดทุนให้ได้มากที่สุด

สินทรัพย์ที่ทำการ Hedging ได้

นอกจากท่านจะนำกลยุทธ์ Hedging ไปใช้ในตลาดหุ้นแล้ว ท่านยังสามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้เทรด สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น น้ำมัน, แก๊ส, ผลิตภัณฑ์ต่างๆ), หลักทรัพย์ (พันธบัตร หรือหุ้น) หรือแม้กระทั่งคู่เงินก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็แล้วแต่ ท่านควรสังเกตสภาวะตลาด รวมทั้งความเคลื่อนไหวของราคาให้ดีทุกครั้งก่อนทำการ Hedging นะครับ

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน