เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บรรยากาศในตลาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงท้ายวัน หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯเปลี่ยนท่าทีเกี่ยวกับการปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เจอโรม พาวเวลล์ และมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นต่อการเจรจาการค้ากับจีน
แม้ตลาดบางแห่งยังปิดทำการเนื่องจากวัน Easter Monday อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเทขายดอลลาร์สหรัฐฯ และมุ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF)
แม้ช่วงวันหยุดอีสเตอร์จะจำกัดความเคลื่อนไหวในตลาด แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท่ามกลางนโยบายการค้าและนโยบายการเมืองที่เข้มงวด
บรรยากาศการซื้อขายยังคงซบเซาเนื่องจากวันหยุดอีสเตอร์ ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลง แม้จะมีการรายงานข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการค้าจากจีนและญี่ปุ่นที่ช่วยลดภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงก็ตาม
วันพฤหัสบดีเป็นอีกวันที่ตลาดการเงินเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ขณะที่ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นภาษี แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศผ่อนผันมาตรการภาษี 90 วันสำหรับประเทศที่ไม่ตอบโต้กลับ
ตลาดการเงินทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศพักการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเป็นเวลา 90 วัน สำหรับประเทศที่ไม่ได้มีมาตรการตอบโต้ ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนและจุดประกายแรงเทซื้อในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่างๆ
ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญแรงกดดันในช่วงกลางสัปดาห์ หลังจากที่มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสร้างความขัดแย้งอย่างมาก ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จุดชนวนความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในระดับโลก มาตรการที่โดดเด่นที่สุดคือ การเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 104% ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับจีนเกิดขึ้นแม้กระทั่งในนาทีสุดท้าย
หลังจากวันจันทร์ที่ผันผวน ความรู้สึกเชิงลบของตลาดเริ่มชะลอลงในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าภาษีศุลกากรของสหรัฐฯที่มีผลในวันที่ 9 เมษายน อาจถูกชะลอหรือยกเลิก โดยมาตรการเก็บภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักในระดับนานาชาติ โดยมีหน่วยงานในสหรัฐฯหลายแห่งกำลังพิจารณายื่นฟ้องต่อการใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉินของเขา
ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของทรัมป์ เขย่าตลาดโลกและบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนที่ระมัดระวังก่อนแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เจอโรม พาวเวลล์ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯที่กำลังจะมาถึง ยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดอีกด้วย
ภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยส่งผลกระทบต่อเกือบ 60 ประเทศ ขณะที่จีนเผชิญกับภาษีสูงสุดถึง 54% หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขภายในวันที่ 9 เมษายน
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดช่วงเช้าวันพุธยังคงซบเซา ขณะที่ นักลงทุนจับตามองการประกาศมาตรการภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางตลาดใน "วันปลดปล่อย" (Liberation Day) นี้ ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นจากสัญญาณที่ไม่ชัดเจนจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและการประชุม ECB
แนวโน้มความเสี่ยงยังคงไม่แน่นอนในช่วงเช้าวันอังคาร หลังจากไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นไปในทิศทางบวกเล็กน้อย
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงซบเซาในวันสุดท้ายของไตรมาส ขณะที่นักลงทุนเริ่มต้นสัปดาห์ NFP