การเทรดออนไลน์ได้กลายเป็นวิธียอดนิยมในการเพิ่มความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงิน และเป็นวิธีที่ได้รับความสนใจจากเหล่าวัยรุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่น่าเสียดายคือวัยรุ่นมือใหม่ส่วนใหญ่มักยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินจริงๆ ในขณะเดียวกัน ความรอบรู้ทางการเงินไม่เพียงแต่ช่วยสร้างภูมิหลังในการลงทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าท่านจะมีเส้นทางการเงินที่มั่นคง พร้อมบรรลุเป้าหมายการเทรดและการลงทุนในระยะยาว
ว่าแต่… ความรู้ด้านการลงทุนคืออะไร? แล้วมันสำคัญกับนักเทรดยังไง? จะช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการการเงินและการบริหารทรัพย์สินได้ดียิ่งขึ้นหรือไม่? มาร่วมค้นหาคำตอบว่าทำไมมือใหม่จึงควรเข้าใจประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น หนี้, ค่าใช้จ่าย, เงิน และอื่นๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจทางการเงินที่ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาติดตามในบทความนี้เลย!
ความรู้ทางการเงิน หรือ Financial Literacy หมายถึง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวคิดทางการเงินหลายๆ รูปแบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้และทักษะในการจัดการทรัพย์สินและการเงินนั่นเอง สาเหตุที่นักลงทุนจะต้องมีความรู้ด้านการเงินก็เพื่อให้สามารถนำความรู้ดังกล่าวมาใช้ในการตัดสินใจทางการเงินที่ดีขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเงินที่วางเอาไว้นั่นเอง
พูดให้เข้าใจง่ายๆ ความรู้ด้านการเงินจะต้องอาศัยความเข้าใจที่ละเอียดเกี่ยวกับตลาดการเงิน ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มความมั่นใจและสามารถวางแผนจัดการการเงินเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่เติบโตขึ้นในระยะยาวได้นั่นเอง
ในปัจจุบัน ตลาดการเงินมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีผลิตภัณฑ์หรือตราสารต่างๆ เพิ่มขึ้นใหม่มากมาย ทำให้มือใหม่หลายท่านอาจลงทุนด้วยความสับสนหรือไม่เข้าใจหากยังไม่มีความรู้ที่แน่นพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนและอาจทำให้ลงทุนผิดพลาดได้
สิ่งที่จะตามมาก็คือการเกิดหนี้, การขาดทุน, การเสียเครดิต และโอกาสเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะท่านสามารถเพิ่มความรู้ความเข้าใจทางการเงินได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนพื้นฐานดังต่อไปนี้
เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ความเข้าใจด้านการเงินให้มากยิ่งขึ้น ท่านจะต้องเข้าใจว่ามีทักษะใดบ้างที่เหมาะนำไปปรับใช้กับตลาดการเงินหลายๆ แห่ง ทักษะที่ว่านั้น ได้แก่:
หวังว่าความรู้ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะไม่ยากเกินไปสำหรับนักลงทุนนะครับ หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเรียนรู้ที่ไหน MTrading เรามีบทความและบทเรียนออนไลน์, สัมมนาออนไลน์, เวิร์กช้อปต่างๆ รวมถึงการพูดคุยและถามตอบแบบสดๆ กับผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคแบบละเอียด
มาดูเทคนิคที่ท่านควรนำไปใช้กับความรู้ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า
การกำหนดและควบคุมงบการเงิน ลองวางแผนคร่าวๆ ว่าท่านสามารถทำกำไรได้ประมาณเท่าไหร่ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยคำนึงเกี่ยวกับภาษีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มีผลต่อกำไร (Profit) จริง ไม่ใช่ Revenue เมื่อคำนวณความเสี่ยงจากการเทรดตราสารแต่ละประเภทเรียบร้อยแล้ว ลองคำนวณดูว่าท่านต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ และลงทุนเท่าที่ท่านไหว (โดยทั่วไปจะลงทุนโดยใช้เงิน 5% จากเงินทั้งหมด)
มองหาความช่วยเหลือด้านการเงิน หากท่านยังเป็นมือใหม่ ไม่ต้องอายที่จะสอบถามหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น โดยในช่วงเริ่มต้นท่านอาจมองหาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวางแผนการกระจายพอร์ตการลงทุนของท่านได้ นอกจากนั้น มือใหม่อาจลองหาตัวเลือกบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น บริการ Copy trade เพื่อคัดลอกกลยุทธ์การเทรดจากนักเทรดมืออาชีพที่มีความรู้ด้านการเงินและมีประสบการณ์ในการเทรดตราสารหลายประเภท
ลองใช้เครื่องมือทางการเงิน อย่ามองข้ามความสำคัญของการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะในปัจจุบัน เครื่องมือง่ายๆ อย่างแพลตฟอร์มการเทรดก็ช่วยให้ท่านสามารถBacktest หรือทดสอบกลยุทธ์การเทรดย้อนหลังได้ และลองทดสอบดูว่าเทคนิคที่ท่านใช้อยู่ตอนนี้ได้ผลจริงหรือไม่ และอาจลองใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน