ดูเหมือนว่าเราไม่มีทางที่จะรับมือกับเจ้าไวรัสวายร้ายได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดการลงทุนทั่วโลกที่ดูท่าจะยังมีคลี่คลายดีนัก นักลงทุนทั่วทุกมุมโลกต่างก็ต้องประสบกับ 'ผลกระทบจาก COVID' เห็นได้จากความผันผวนของตลาดที่พุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่ไม่เว้นแต่ละวัน นักเทรดทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเวลา 10+ ปีกว่าแล้ว ที่พวกเขาไม่ได้เห็นตลาดแย่เท่านี้มาก่อน ตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2008
ผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้ตลาดมีทั้งผู้ที่ 'เทรดแพ้-เทรดชนะ' โดยสกุลเงินที่ยังคงน่าลงทุนอยู่ และทำให้เทรดได้ประสบความสำเร็จก็คือ USD หรือ ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นที่นิยมตลอดกาล และมักใช้เทรดคู่กับสกุลเงินอื่นๆ ในกลุ่ม G10 (ยกเว้นเงินเยน และฟรังก์สวิส)
ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง) ที่ดิ่งลงจนน่าตกใจ หลังจากที่วิกฤต COVID-19 ได้เริ่มต้นขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ สกุลเงินดังกล่าวก็มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้อังกฤษจะประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติมอีกกว่า 3 สัปดาห์ (รวมทั้งงดเว้นการรวมกลุ่มทางสังคม, ธุรกิจต่างๆ ถูกปิดตัวลงชั่วคราว ยกเว้นธุรกิจที่จำเป็น เช่น อาหาร, ของใช้ที่จำเป็น, ยา และการขนส่งสาธารณะ เป็นต้น)
และอีกหนึ่งสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบที่ชัดเจนจาก COVID-19 ก็คือ EURUSD จากกราฟราคาบน MetaTrader 4 เวอร์ชั่นเว็บไซต์ หรือ WebTrader นี้ จะสังเกตได้ว่า EURUSD มีความผันผวนสูงมากในกรอบเวลา หรือ timeframe 1 เดือน (เมษายน 2020)
ติดตามและควบคุมความเคลื่อนไหวของราคาและเทรนด์ ด้วยแพลตฟอร์มชั้นนำที่ผ่านการทดสอบมาแล้วอย่าง MetaTrader 4 ดาวน์โหลด MT4 ได้ฟรี แล้วเริ่มเทรดได้ทันที ทั้งใน บัญชีเดโม่ และ บัญชีจริง หรือจะ คัดลอกเทรดจากเทรดเดอร์มืออาชีพ แบบอัตโนมัติก็ยังได้!
นาทีนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างกำลังทุ่มเงินเพื่อลงทุนกับ USD และสกุลเงินที่แข็งค่าอื่นๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพอร์ตของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ COVID-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งมีข่าวลือหนาหูว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะถดถอยอย่างเลวร้ายที่สุด ข่าวลือที่ว่านี้ยิ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับนักลงทุนได้ออกมาเคลื่อนไหวในที่สุด
COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกวงการอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ, การท่องเที่ยว, โรงพยาบาล และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเจ้าของธุรกิจต่างๆ รวมถึงรัฐบาล ต่างก็ออกมาโต้ตอบกับวิกฤตดังกล่าวด้วยวิธีการที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางฝ่ายก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อระงับปัญหาที่เกิดขึ้น
ในการเทรด forex ก็เช่นกัน แผนในการเทรด forex อย่างต่อเนื่องตกอยู่ในสภาวะกดดัน เนื่องจากว่าอาจต้องหยุดชะงักชั่วคราว และถูกทดสอบในแง่ของประสิทธิภาพและความเพรียบพร้อมในการเทรดหรือการลงทุน ดังที่เรากล่าวย้ำมาแล้วว่า ความผันผวนในตลาดทั่วโลกกำลังแพร่ระบาดไม่ต่างจากไวรัส COVID-19 เลยครับ
ตัวอย่างเช่น รายได้จากสกุลเงินเดียวกันเกิดการ matching กันมากถึง 1 แสนล้าน USD ภายในวันเดียว! ดังนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า นักลงทุนต่างต้องตัดสินใจปิดการเทรดอย่างรวดเร็วท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น และสภาวะตลาดที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
แต่อีกหนึ่งสิ่งที่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาด forex ก็คือ การที่ธุรกิจหลายๆ แห่งยังคงดำเนินการต่อไป โดยใช้วิธีแก้ปัญหาให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from home) แทนที่จะให้พวกเขาพักงานหรือไล่ออก เพราะต้องยอมรับเลยว่าหลายๆ ธุรกิจคงดำเนินต่อไปไม่ได้ หากปราศจากการร่วมแรงของพนักงานทั้งหลาย
และในขณะเดียวกัน เมื่อธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ แล้วจะหยุดชะงักการเทรดไปทำไม? ในเวลาที่ไม่มีอะไรแน่นอนเช่นนี้ นักเทรด forex หรือ การเทรดประเภทอื่นๆ ก็ยังคงเทรดทำกำไรต่อไปได้เช่นกัน!
อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการการเทรด forex จะต้องทำตาม 'แนวทางการปฏิบัติสากลในการเทรด forex' หรือ FX Global Code of Conduct นั่นเอง และที่สำคัญจะต้องมีแผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (พูดง่ายๆ ก็คือ แผนการที่จะรับรองว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างราบรื่น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ) ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจนั้นมีความมั่นคงมากแค่ไหน จากขนาด, ปริมาณ, กลุ่มประเภท, หรือความละเอียดซับซ้อนของธุรกิจนั้นๆ
ผู้ให้บริการการเทรด forex ที่มั่นคง จะช่วยทำให้เทรดเดอร์ forex ทั้งหลายมั่นใจได้ในความแข็งแกร่งและปลอดภัยของบริษัท จากการรับรู้ว่าโบรกเกอร์ที่ตนร่วมเทรดด้วยนั้น มีแผนการในการรับมือกับวิกฤตต่างๆ เพื่อให้สามารถอยู่รอดในตลาด forex ได้อย่างต่อเนื่อง
ในตลาด forex อินเดีย ได้มีการประมาณว่า นักลงทุนต่างชาติได้ถอนเงินลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ก่อนปลายเดือนมีนาคม และถอนเงินเพิ่มเติมกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนดังกล่าว (ราวๆ วันที่ 20 มี.ค.)
ช่วงเวลาดังกล่าวจึงถือเป็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นในตลาด forex นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 เห็นได้จากการที่นักลงทุนพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุน โดยการถอนเงินลงทุนก้อนใหญ่ออกจากตลาดเกิดใหม่อย่าง อินเดีย เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก
มีการคาดการณ์ว่าตลาด forex จะยิ่งถดถอยเพิ่มมากยิ่งขึ้นในสัปดาห์ต่อๆ ไป เนื่องจากนักลงทุนได้เริ่มมองหาการลงทุนใน 'สินทรัพย์ปลอดภัย' หรือ 'Safe haven asset' มากย่ิงขึ้น เช่น พันธบัตร US เป็นต้น
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนต่างกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มั่นคงในขณะนี้ แต่อย่าลืมว่าตลาดยังคงดำเนินต่อไป! เราจึงได้เตรียม เคล็ดลับการเทรดช่วง COVID ที่ใช้งานได้จริง มาให้กับเทรดเดอร์ทุกท่าน เพื่อทำความเข้าใจ วิธีการเทรดในช่วงที่มีโรคระบาด และ ทำกำไรในจังหวะที่ไม่แน่นอน เช่นนี้
หลักการสำคัญ:
แม้จะคาดการณ์ตลาดอย่างแน่นอนไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ เรารู้ดีว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลันจากความผันผวนของตลาดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา เช่นเดียวกับช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนา การคาดการณ์เกี่ยวกับความผันผวนนั้นย่อมไม่ต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ ท่านจะไม่สามารถคาดการณ์ได้โดยอาศัยการพาดหัวข่าวต่างๆ
นั่นหมายความว่า ในขณะที่ท่านสามารถคาดหมายการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดที่เกิดจากการประกาศสำคัญต่างไ (เช่น การประชุมทางเศรษฐกิจที่กำลังจะจัดขึ้น, ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ และรายงานดัชนี Non Farm ของสหรัฐฯ เป็นต้น) แต่ท่านอาจไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้จากการพาดหัวข่าวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวที่น่าติดตาม เช่น การอัปเดตจากรัฐบาลของประเทศผู้นำต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือ อังกฤษ ที่ออกมาประกาศสถานการณ์รายวันเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 รวมถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในการรับมือกับไวรัสดังกล่าว (เช่น การขยายระยะเวลาการกักตัว เป็นต้น)
จากการติดตามประกาศเหล่านี้ อาจทำให้นักเทรด forex สามารถคาดการณ์ได้อย่างมีเหตุผลมากยิ่งขึ้นว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะเกิดผลกระทบอย่างไรต่อตลาด forex ตัวอย่างเช่น อัตราการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศหนึ่งๆ อาจนำไปสู่ความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาด forex
ดังนั้น เทรดเดอร์ทุกท่านอาจต้องพิจารณาและปรับเปลี่ยนตารางเวลาในการเทรดใหม่ และใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในการรับมือกับข่าวสารต่างๆ เป็นวิธีในการใช้ประโยชน์จากความผันผวน อย่างมีไหวพริบ และเหตุผล!
หลักการสำคัญ:
ท่านอาจเบื่อที่จะได้ยินคำแนะนำเช่นนี้ซ้ำๆ จากบทความ, หนังสือ หรือ บทสัมภาษณ์ของนักเทรดมืออาชีพ มานับไม่ถ้วน แต่เชื่อเถอะครับว่า ไม่มีคำแนะนำไหนที่จะใช้ได้จริงมากเท่านี้อีกแล้ว ในสภาวะตลาดวิกฤตแบบนี้ ความหวาดกลัวส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมราคาในตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากอารมณ์เหล่านั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด forex
สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด ณ ขณะนี้ก็คือ ความไม่แน่นอนว่าวิกฤตการแพร่ระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด ทำให้นักลงทุนต่างพากันเทขายสินทรัพย์ต่างๆ ที่พวกเขามีอยู่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เพื่อป้องกันการลงทุนของพวกเขาเอง จะเห็นได้ว่าความกลัวกำลังมีอิทธิพลเหนือพฤติกรรมการเทรดของพวกเขา ซึ่งอาจจะมีผลดีในระยะสั้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่มีราคาแพงไม่น้อยในระยะยาว
แน่นอนว่า นักลงทุนเหล่านั้นจะไม่ยอมสูญเสียเงินทุน หรือ มูลค่าจากการลงทุน ของพวกเขาอีกต่อไป แต่พวกเขาก็อาจจะพลาดโอกาสในการทำกำไรในระยะยาวได้เช่นกัน ซึ่งหลักการนี้ดูเหมือนจะใช้ได้ดีกว่าในการเทรดหุ้น (เนื่องจากอาศัยการเทรดระยะยาว) แล้วอย่างนั้น หลักการนี้จะใช้กับการเทรด forex ได้อย่างไร?
เอาล่ะครับ… หลักการสำคัญ ที่เทรดเดอร์ไม่ควรลืมเลยก็คือ จังหวะที่ตลาดกำลังแตกตื่นนี้ เป็นการขยายโอกาสในการลงทุนในตลาด forex มากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าจำนวนเทรดเดอร์มากประสบการณ์ที่กำลังเทรดกันอยู่ในตลาดนั้นลดน้อยลง แต่เพียงแค่เทรดเดอร์พวกนั้นตัดสินใจถอนเงินออกและเดินหนีการเทรดไปเสีย ไม่ได้หมายความว่าท่านควรจะหยุดเทรดเหมือนกันเสียหน่อย! เพราะเมื่อนักเทรดเหล่านั้นออกจากตลาด ราคาสินทรัพย์ก็ย่อมลดลง เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อเพื่อรอขายเมื่อสถานการณ์ต่างๆ กลับสู่สภาวะปกติ
อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า ความผันผวนที่รุนแรงในตลาด forex ได้นำพาโอกาสในการเข้าครอบครองสินทรัพย์ที่มีราคาไม่มาก (ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในตลาดการลงทุน) แต่จะก่อให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้น จงอย่ากลัวที่จะเทรด! มีเหตุผลเข้าไว้, ทำจิตใจให้สงบ และติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดการเงินอยู่เสมอ! เราเอาใจช่วยทุกท่านให้เทรดได้ประสบความสำเร็จนะครับ!
ติดตามบทเรียน forex ใหม่ๆ ก่อนใคร! มีบทความดีๆ ให้อ่านเพิ่มเติม เช่น
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน