บรรยากาศการซื้อขายในวันจันทร์มีความผันผวน โดยความเชื่อมั่นมีทิศทางเป็นบวกเล็กน้อยจากจีน ขณะที่ ตลาดจับตามองความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครน-รัสเซีย หลังจากเกิดข้อพิพาทระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี นอกจากนี้ ความตึงเครียดเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน รวมถึงความระมัดระวังก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯในวันศุกร์ ยังส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนยูเครนจากยุโรปและสหราชอาณาจักร พร้อมกับการเปิดเผยข้อมูลดัชนี PMI ที่มีแนวโน้มเป็นบวกจากจีน และอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯที่คงที่ ล้วนมีส่วนช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับสภาวะความเสี่ยงในตลาด ซึ่งช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง
ด้วยปัจจัยดังกล่าว ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับตัวลงจากการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำเผชิญการร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบเก้าสัปดาห์ ขณะที่ สกุลเงินอื่นๆ และสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง สกุลเงินดิจิทัลยังคงอ่อนแอ แม้จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของทรัมป์ ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นบางส่วนจากการร่วงลงก่อนหน้านี้ ด้านตลาดพันธบัตรสะท้อนบรรยากาศการลงทุนที่ยังคงระมัดระวัง
แม้บรรยากาศความเสี่ยงในตลาดจะยังคงไม่แน่นอน แต่การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯยังช่วยให้สกุลเงินหลักสามารถฟื้นตัวจากการร่วงลงได้บ้าง คู่เงิน EURUSD ยุติการร่วงลงสามวันติดต่อกัน ขณะที่ นักลงทุนจับตามองการประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯในวันศุกร์ โดยยูโรยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่ว่า ยุโรปอาจมีบทบาทในการเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครน-รัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดกับสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม อย่างไรก็ตาม ท่าทีการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB ยังคงจำกัดการปรับตัวขึ้นของยูโร
คู่เงิน GBPUSD ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯและข้อมูลเชิงบวกเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร รวมถึงกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับบทบาทของอังกฤษในกระบวนการเจรจาสันติภาพยูเครน อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรภายใต้นโยบายภาษีใหม่ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ยังคงกดดันการฟื้นตัวของเงินปอนด์
คู่เงิน USDJPY ปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ โดยยุติแนวโน้มขาขึ้นสามวันติดต่อกัน เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้ง ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น และความกังวลว่าสหรัฐฯอาจผลักดันให้ญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมประกอบกับสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยของเงินเยน ขณะที่ นักลงทุนรอคอยการเปิดเผยข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้
คู่เงิน AUDUSD สะท้อนบทบาทตัวชี้วัดความเสี่ยง (risk-barometer) ในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยปรับตัวขึ้นระหว่างวันเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดวัน หลังจากดีดตัวจากระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน คู่เงิน Aussie ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลดัชนี PMI ของจีนที่เป็นบวกและความเชื่อมั่นของตลาดที่ดีขึ้น อันเป็นผลมาจากข่าวสารด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ การประชุมสองสภาประจำปีที่กำลังดำเนินอยู่ของจีน ข้อมูลเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่ปรับตัวดีขึ้น และมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) สหรัฐฯในวันศุกร์ โดยเฉพาะหลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ยังช่วยหนุนแรงเทซื้อ Aussie แม้ตลาดยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการผลักดันราคาขึ้นไปสูงเกินไป
ข้อมูลอัตราการค้าของนิวซีแลนด์ (Terms of Trade) ไตรมาสที่ 4 พร้อมกับความเชื่อมั่นเชิงบวกที่เชื่อมโยงกับจีนและการฟื้นตัวของดอลลาร์ออสเตรเลีย ช่วยให้คู่เงิน NZDUSD ยุติการร่วงลงติดต่อกันหกวัน อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของคู่เงินดังกล่าวยังขาดแรงส่งที่แข็งแกร่ง เนื่องจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ)
ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDCAD แกว่งตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน ขณะที่ แรงเทซื้อชะลอตัวหลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกันหกวัน คู่เงินนี้ได้รับแรงหนุนจากการดึงกลับของดอลลาร์สหรัฐฯและข้อมูล GDP ของแคนาดาที่ออกมาดีกว่าที่คาด แม้จะเพิกเฉยต่อการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของแคนาดา ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและแคนาดาที่ยังคงอยู่ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ทำให้คู่เงิน USDCAD ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเพิ่มเติม
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยตั้งเป้าฟื้นตัวจากการร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบเก้าสัปดาห์ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ช่วยหนุนระดับราคา ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดรอคอยรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ และปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปี 2025 นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มผ่อนคลาย และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ลดลง ยังช่วยให้ราคาทองคำมีเสถียรภาพมากขึ้น
ในอีกทางหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเวลาหกสัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยกดดันจากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งแกร่ง แผนผลักดันการขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นของโดนัลด์ ทรัมป์ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการผลิตของกลุ่ม OPEC+ หลังช่วงกลางปี 2025
สกุลเงินดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาสนับสนุนแนวคิดการนำคริปโตมาใช้เป็นทุนสำรองของประเทศ พร้อมกับกระแสการเข้าซื้อจากสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นเริ่มแผ่วลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของบริษัทคริปโตรายใหญ่ ความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก และการที่ทรัมป์ยังไม่มีมาตรการชัดเจนเกี่ยวกับการนำคริปโตเข้าสู่ทุนสำรองของสหรัฐฯ ผลกระทบดังกล่าวทำให้ Bitcoin (BTCUSD) และ Ethereum (ETHUSD) ปรับตัวลดลงกว่า 3% ระหว่างวัน โดยพลิกกลับจากการพุ่งสูงขึ้นรายวันที่แรงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เงียบเหงาในวันจันทร์
จุดสนใจของตลาดในวันจันทร์อยู่ที่การรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนกุมภาพันธ์ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิต ISM ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม นักเทรดฝั่งซื้อคู่เงิน EURUSD อาจยังคงระมัดระวัง เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี และข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯสนับสนุนการชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed นอกจากนี้ ตลาดอาจให้ความสนใจไปที่ความคืบหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจช่วยหนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และหนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวจากการร่วงลงล่าสุด โดยอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน สกุลเงินดิจิทัลอาจทรงตัวจากการปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!