ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบางในช่วงต้นวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากนักลงทุนในตลาดต้องเผชิญกับความกลัวเรื่องการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ สิ่งที่หนุนท่าทีระมัดระวังของเหล่านักลงทุนอาจเป็นการพูดคุยเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของ Fed และความกังวลเรื่องปัญหาในตลาดตราสารหนี้ของจีนที่สืบเนื่องมาจาก Evergrande นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์รวมถึงความคิดเห็นที่ไม่น่าประทับใจจากเจ้าหน้าที่ ECB ยังเพิ่มความวิตกกังวลของตลาดในช่วงต้นวันพฤหัสบดีอีกด้วย
ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐและดอลลาร์สหรัฐฯแกว่งตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบปี ในขณะที่ ช่วงแนวโน้มขาลงคู่เงิน USDJPY แบกรับภาระจากความกลัวว่าทางการญี่ปุ่นจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาระดับเงินเยนไว้ที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน
ส่วนทางคู่เงิน EURUSD ฟื้นตัวที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่คู่เงิน GBPUSD ยังคงได้รับแรงกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบหกเดือน นอกจากนี้ คู่เงิน AUDUSD ดีดตัวกลับจากจุดต่ำสุดในรอบปีแม้ว่ายอดค้าปลีกออสเตรเลียจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในทางกลับกัน คู่เงิน NZDUSD ชะลอจากการร่วงลงติดต่อกันสองวันด้วยการดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์
ในอีกทางหนึ่ง ราคาทองคำยังคงตกต่ำที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากที่ร่วงลงมากที่สุดในรอบสองเดือนเมื่อวันก่อนหน้า ส่วนทางด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบปี ท่ามกลางความหวังว่าจะมีความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้นและกำลังการผลิตที่ลดลง
และเป็นที่น่าสังเกตว่า BTCUSD และ ETHUSD ไม่ได้รับผลกระทบจากสัญญาณขาลงของตลาดออปชัน และความกลัวต่อกฎระเบียบของ US SEC ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนการอนุมัติ ETF ทั้งแบบสปอตและฟิวเจอร์ส
มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่พุ่งสูงขึ้น, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นที่สั่นคลอน ส่งผลให้เกิดสภาวะระมัดระวังของนักลงทุนในตลาดก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯอีกครั้งโดยที่จำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงต้นวันนี้
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์และความคาดหวังของตลาดด้วยการเติบโต 0.2% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่คำสั่งซื้อสินค้าในหมวดหมู่ Nondefense Capital Goods (โดยไม่รวมเครื่องบิน) มีการเติบโตที่น่าประทับใจโดยมีอัตราการเติบโตเป็น 0.9% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.0% และจากการรายงานครั้งก่อน -0.4% นอกจากนี้ Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแห่งมินิอาโปลิสย้ำถึงจุดยืนเรื่องนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเขาในระหว่างการสัมภาษณ์ของ CNBC เมื่อวันพุธ โดยอ้างถึงความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึงแสดงสัญญาณความคาดหวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้นในระยะยาวตามแนวทาง “higher for longer” ในปีหน้า
โดยสิ่งที่มีส่วนทำให้เกิดสภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจเป็นการที่ Jared Bernstein ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจสหรัฐฯแต่ในเวลาเดียวกันการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังคงเติบโตเป็นอย่างดี ในกรณีที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดในการดำเนินนโยบายหรือเหตุฉุกเฉินจากภายนอก และเป็นที่น่าสังเกตว่า Goldman Sachs ดูเหมือนจะมีมุมมองในแง่ร้ายเกินไปเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯเนื่องจากมีการคาดว่าจะมีโอกาสถึง 90% ที่รัฐบาลสหรัฐฯจะชัตดาวน์ หลังจากคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลายครั้งในช่วงต้นสัปดาห์
นอกจากนี้ การหยุดการซื้อขายหุ้น Evergrande ของจีนร่วมกับการแทรกแซงตลาดของผู้กำหนดนโยบายของจีนนั้นสามารถควบคุมสถานการณ์ความผันผวนของตลาด รวมถึงสนับสนุนเงินดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเช่นกัน
เมื่อพูดถึงคริปโต การพูดคุยเกี่ยวกับการอนุมัติ ETF Futures ETF ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ส่งผลให้ BTCUSD และ ETHUSD ขยับตัวสูงขึ้น แม้ว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯจะเตรียมเพิ่มกฎระเบียบเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ถดถอยลงของตลาดออปชัน
ต่อไป รายงานดัชนีราคา PCE ของสหรัฐ, ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ และการเรียกร้องสิทธิว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ รวมไปถึงแถลงการณ์ของ Jerome Powell ประธาน Fed จะเป็นสิ่งสำคัญในการจับตาดูทิศทางที่ชัดเจน เหนือสิ่งอื่นใด พัฒนาการเกี่ยวกับข้อตกลงเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และจีนจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !