ราคาทองคำชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นในรอบสัปดาห์เนื่องจากแถลงการณ์การประชุม Jackson Hole

ตลาดเคลื่อนที่เข้าสู่สภาวะทรงตัวเนื่องจากผู้บริหารธนาคารกลางต่างใช้ประโยชน์จากการประชุมประจำปี Jackson Hole เป็นโอกาสในการผลักดันข้อกังวลด้านการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน โดยปัจจัยที่สนับสนุนท่าทีระมัดระวังของตลาดคือความกังวลเรื่องสถานการณ์ความผันผวนที่เกี่ยวข้องกับจีนและการฟื้นตัวครั้งล่าสุดของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

สถานการณ์เช่นนี้จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯสามารถฟื้นตัวที่ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์และทำให้สกุลเงินหลักต่างอ่อนค่าลงเช่นเดียวกับค่าเงิน AUD,NZD และยังเป็นผลให้ช่วงขาขึ้นของราคาทองคำยังชะลอตัวลงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้ขยายการฟื้นตัวจากวันก่อนหน้า ท่ามกลางความหวังที่จะได้เห็นการจำกัดนโยบายการเงินที่เข้มงวดเร็วยิ่งขึ้นรวมไปถึงความคาดหวังที่จะได้รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน

ด้วยเหตุนี้ ราคาทองคำจึงแกว่งตัวอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ระหว่างที่กำลังเข้าสู่สภาวะทรงตัวจากการพุ่งสูงขึ้นครั้งแรกในรอบห้าสัปดาห์ ในขณะที่น้ำมันเบรนท์ปรับขึ้นที่ราวๆ 1.0% และในสภาพการณ์เดียวกันนี้จะจำกัดการพุ่งสูงขึ้นของคู่เงิน USDCAD และส่งผลกระทบต่อค่าเงิน JPY, NZD และ GBP ได้อีกด้วย นอกจากนี้คู่เงิน EURUSD ยังร่วงลงมากที่สุดในบรรดาคู่สกุลเงินหลักเนื่องจากผู้กำหนดนโยบายของ ECB ล้มเหลวในการคงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้จะผลักดันปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยให้ถอยกลับไปแล้วก็ตาม

นอกไปจากปัญหาการหลอกลวงในตลาดคริปโต การยุติความร่วมมือของ Mastercard กับผู้เล่นรายหลักยังส่งผลกระทบต่อ BTCUSD และ ETHUSD ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นเป็นวงกว้าง ในอีกทางหนึ่ง ความคาดหวังที่จะมีการสนับสนุนในด้านสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มเติมจากกลุ่มประเทศ BRICS อาจจะช่วยยันราคาของ Bitcoin และ Ethereum ให้มีความต้านทานต่อการร่วงลงได้

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองโดยเพิ่มขึ้น 0.90% ระหว่างวันที่ราวๆ $84.00
• ทองคำ (Gold) ราคาทองคำร่วงลงครั้งแรกในรอบห้าวันโดยร่วงลง 0.10% ที่ราวๆ $1,915
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) กลับมาแตะจุดสูงสุดในรอบ 2.5 เดือนที่ราวๆ 104.30
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบส่งผลกระทบต่อ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร มีความผันผวน
• BTCUSD มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ราวๆ $26,000 ขณะที่ ETHUSD ร่วงลงที่ราวๆ $1,650

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯร่วมกับการข่าวจาก Fed ขับเคลื่อนเงินดอลลาร์และหนุนแรงเทซื้อทองคำ

การที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่มีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นในวันพฤหัสบดีร่วมกับการพูดคุยถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเมื่อเร็วๆนี้จากเจ้าหน้าที่ของเฟดกระตุ้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯและท้าทายแรงเทขายทองคำในระหว่างวัน และอีกสิ่งที่ท้าทายคือความกลัวว่าจีนจะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจกลับคืนมาได้ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้ ผู้กำหนดนโยบายบางส่วนของ Fed และ ECB พยายามที่จะคงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะสามารถพยุงแรงเทซื้อดอลลาร์สหรัฐฯได้ ในขณะที่ค่าเงินยูโรไม่สามารถฟื้นตัวได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในอีกทางหนึ่ง หุ้นเทคโนโลยีเผชิญกับแรงกดดันด้านลบครั้งใหม่ และส่งผลกระทบต่อหุ้นในเอเชียแปซิฟิก แม้ว่า PBOC จะพยายามจำกัดช่วงแนวโน้มขาลงก็ตาม

และเป็นที่น่าสังเกตว่าความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนในกองทุนคริปโตส่งผลให้ BTCUSD และ ETHUSD ยังคงได้รับแรงกดดัน แม้ว่ากลุ่มประเทศ BRICS จะแสดงสัญญาณเชิงบวกในการสนับสนุนระบบคริปโตก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD, Gold
• สัญญาณซื้อ: USD Index, Nasdaq, USDJPY
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, BTCUSD, AUDUSD, EURUSD

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ Powell จาก Fed และ Lagarde จาก ECB

ในขณะที่การเตรียมพร้อมแถลงการณ์ของธนาคารกลางที่การประชุมประจำปี Jackson Hole จะถูกจับตามองเพื่อประกอบการคาดการณ์ทิศทางที่ชัดเจนของตลาด ในขณะเดียวกัน Jerome Powell ประธาน Fed และ Christine Lagarde ประธาน ECB จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกันซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลที่มีต่อตลาดของพวกเขา

ทั้งนี้การปรับขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯครั้งล่าสุดนั้นแสดงให้เห็นว่าการพูดคุยเรื่องนโยบายการเงินที่เข้มงวดจาก Powell ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯนั้นเป็นเรื่องที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องนำเสนอสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเพื่อปกป้องความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เชื่อว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน Lagarde ผู้ว่าการของ ECB อาจจะไม่สามารถกระตุ้นแรงเทซื้อเงินยูโรได้แม้ว่าจะมีการผลักดันการลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !