ทองคำและเงินยังคงกำหนดทิศทางของตลาด

อีกครั้งที่สัปดาห์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทองคำและเงินในการเอาชนะตลาด แม้จะเผชิญกับความผันผวนทั่วโลกและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่โลหะมีค่าเหล่านี้ยังคงเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาด

นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป แนวโน้มราคาสามารถผลักดันสินทรัพย์ทั้งสองให้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ แนวโน้มขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไปโดยการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ย Fed Funds อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จึงยังคงเดินหน้ากับนโยบายการเงินที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม ทองคำทรงตัวในการปรับตัวขึ้นในวงกว้าง โดยรักษาระดับแนวรับสำคัญไว้ได้

ธนาคารกลางสหรัฐฯได้ส่งสัญญาณแก่นักลงทุนในสัปดาห์นี้อย่างชัดเจนว่า แม้จะเตรียมพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด อีกทางด้านหนึ่ง เศรษฐกิจสหรัฐฯยังเพิ่มการจ้างงานมากถึง 353,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินความคาดหมายไว้มาก ตามตัวเลขที่เผยแพร่ในวันศุกร์ สถิติตัวนี้เป็นดั่งการตอกฝาปิดโลงความหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า นอกจากนี้ ค่าแรงยังเพิ่มสูงขึ้น 0.6% และเพิ่มขึ้น 4.5% ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว

ดังนั้น ตลาดจึงมีการปรับลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม และตอนนี้คาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 20% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมภายในสิ้นสัปดาห์นี้

นอกจากนั้น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์และ S&P 500 ทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล เนื่องจากผู้ร่วมตลาดยังคงทุ่มเงินลงทุนในหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางฝั่งของโกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเมษายนกำลังจะสิ้นสุดสัปดาห์ด้วยการดีดตัวขึ้นประมาณ 1% แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย โดยราคาทองคำเผชิญแนวต้านที่ 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในอีกทางหนึ่ง งานวิจัยชี้ว่า ความต้องการทองคำในปี 2023 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,899 ตัน โดยปัจจัยหลักมาจากการที่ธนาคารกลางปรับขึ้นราคาและการดำเนินงานในตลาดนอกระบบ (OTC) อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่รวมการซื้อขายในตลาด OTC ที่มีข้อมูลไม่ชัดเจน ตัวเลขความต้องการทองคำจึงลดลงเหลือ 4,448 ตัน ซึ่งน้อยกว่าปี 2022 ถึง 5%

ถึงกระนั้น ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำในปริมาณมาก โดยปีที่แล้วมีการซื้อไปถึง 1,037 ตัน ซึ่งแม้จะห่างจากสถิติสูงสุดในปี 2022 เพียง 45 ตัน แต่ก็ถือว่าความต้องการจากธนาคารกลางเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในทศวรรษที่ผ่านมา

สภาทองคำโลก (WGC) คาดการณ์ว่าความต้องการทองคำจะยังคงที่เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญไม่คิดว่าธนาคารกลางจะซื้อทองคำเกิน 1,000 ตันเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าเหตุผลของการกระจายความเสี่ยงของธนาคารกลางด้วยการลงทุนในทองคำยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !