GBPUSD ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้ดอลลาร์สหรัฐฯจะยังคงอ่อนค่าอยู่

ในวันอังคารนี้นอกจากตลาดจะเริ่มต้นได้อย่างซบเซาแล้ว เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเนื่องจากล้มเหลวในการพยายามหยุดเงินดอลลาร์ไม่ให้อ่อนลงไปมากกว่านี้เมื่อวันก่อน นอกจากนี้ยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ FED รวมถึงการพยายามปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก ECB ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อเงินดอลลาร์ที่กำลังอ่อนค่าลงในขณะนี้ ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง ซึ่งไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่เกิดจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงความระมัดระวังต่อข้อมูลสำคัญในเดือนมกราคม

เนื่องด้วยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังอ่อนค่าลง ทำให้ราคาทองคำกลับมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน แม้ว่าความต้องการขายน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ GBPUSD ไม่มีการติดลบใดๆในขณะที่ตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้คู่เงิน EURUSD ยังคงเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สี่ โดย USDJPY มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยข้อมูล PMI ของญี่ปุ่นที่ผสมกันเล็กน้อยไม่ส่งผลต่อราคาคู่เงิน USDJPY ทั้งนี้คู่เงิน USDCNY ยังคงไม่มีการเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์ของจีน

ในขณะที่ BTCUSD และ ETHUSD มีราคาแตะจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนซึ่งมากกว่าราคาสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องด้วยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง รวมถึงความหวังที่มากขึ้นในการกลับมาเป็นเหรียญแนวหน้าของตลาดคริปโต

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้นไปที่ราวๆ $88.00 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์เมื่อวาน
• ทองคำ (Gold) แตะระดับสูงสุดหลังจากเดือนเมษายนที่ 0.45% ราวๆ $1,940
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX) ย่อลงไปต่ำกว่า 102.00 ที่ 0.21%
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดเขียว แต่หุ้นในเอเซียและยุโรปรวมถึงสหราชอาณาจักรมีการเปิดผสม
• BTCUSD และ ETHUSD ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบหลายวันที่ราวๆ $23,100 และ $1,650 ตามลำดับ

เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงร่วง

แม้ว่าความเชื่อมั่นของตลาดจะยังคงสั่นคลอน ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงตกต่ำเนื่องจากผู้ลงทุนมั่นใจว่า Fed ใกล้จะออกจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดเร็วๆนี้ ทั้งนี้ความเชื่อมั่นของตลาดที่กำลังสั่นคลอนเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางอื่น ๆ โดยการที่เงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงเป็นผลเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีสาเหตุหลักมาจากข้อกล่าวหาว่าปักกิ่งสนับสนุนสงครามในรัสเซีย นอกจากนี้การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะที่ดูเหมือนจะดีขึ้นก็ไม่เป็นไปตามคาด ทำให้ไม่สามารถชักจูงผู้ซื้อให้กลับมาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้

โดยหลังจากที่จีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคำมีราคาเพิ่มขึ้นภายใต้นโยบายของ ECB ที่หนุนให้ EURUSD ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น นอกจากนี้คู่เงิน USDJPY ยังมีราคาลดลงเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงอ่อน ภายใต้ความคาดหวังในการออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ BoJ ที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ

ทั้งนี้การพุ่งขึ้นของราคาทอง รวมถึงน้ำมันดิบยังพยายามต่อสู้กับความพร้อมของสหรัฐในการปล่อยน้ำมันสำรองด้านยุทธศาสตร์เพิ่มหากเกิดเหตุจำเป็น ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่า โดยในขณะนี้ GBPUSD ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นโดยไม่ได้รับผลกระทบจากบันทึกการขาดดุลใน สหราชอาณาจักร รวมถึงมาตรการ Brexit ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก่อนการเผยแพร่ข้อมูล PMI จากสหราชอาณาจักรเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง

ในขณะที่ตลาดคริปโตมีความผ่อนคลายมากขึ้นจากราคาของ BTCUSD และ ETHUSD ที่เพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักมาจากความล้มเหลวของ FTX รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเพื่อดึงดูดผู้ซื้อให้กลับมาลงทุนในคริปโต แม้จะมีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับตลาดคริปโตก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: GBPUSD
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, USDJPY
• สัญญาณซื้อ: USD Index, USDCAD, Nasdaq, EURUSD
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, gold, BTCUSD, AUDUSD

จับตามองนโยบายของธนาคารกลาง

ถึงแม้ว่าข้อมูล PMI ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2023 จะเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจซื้อขายสำหรับวันนี้ แต่คำแถลงการณ์นโยบายจาก ECB และ BoE อาจสร้างความคึกคักให้กับเทรดเดอร์ได้เช่นกัน นอกจากนี้ความขัดแย้งระหว่างจีน-อเมริกัน รวมถึงข่าวลือเกี่ยวกับ Fed อาจเพิ่มแรงผลักดันให้กับตลาดได้ ทั้งนี้ GDP ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี และการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้าคือกุญแจสำคัญในการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!