จากพัฒนาการของกลุ่มประเทศ BRICS เชื่อได้ว่าจะสามารถแข่งขันกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยการประชุมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้ ในทางด้านหนึ่ง อาจจะไม่สามารถคาดหวังถึงการประกาศข่าวที่โดดเด่นได้
ในทางกลับกันมีน้อยคนที่ตระหนักว่ามีประเทศใหม่ๆจำนวนมากที่เข้าร่วมกับ BRICS และค่อยๆละทิ้งความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา กล่าวง่ายๆ ก็คือ มีประเทศจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่หลีกเลี่ยงที่จะใช้ดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสกุลเงินสำรองหลัก
ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจกับกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆมากนัก นอกจากนี้ผู้ร่วมตลาดต่างดูถูกดูแคลนพันธมิตรใหม่ๆอย่างการร่วมมือระหว่างซาอุดิอาระเบียและจีน แต่ความร่วมมือนี้อาจส่งผลกระทบที่สำคัญและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลก
สิ่งที่เราสังเกตเห็นได้ในตอนนี้คือกลุ่มประเทศ BRICS กำลังพยายามแข่งขันในการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้โดยอาจทำให้สหรัฐฯสูญเสียอิทธิพลทางการเงินและดอลลาร์สหรัฐฯก็อาจจะสูญเสียสถานะการเป็นสกุลเงินสำรองหลักซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯเผชิญกับวิกฤตหนี้ในประเทศที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ทั้งนี้นักลงทุนจะต้องจับตามองสถานการณ์ของจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเทศนี้มีการพัฒนาที่สำคัญบางประการซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมมหภาคภายในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้านี้
แม้ว่าจะมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่จีนก็ยังคงมีความพยายามในการใช้นโยบายการเงินเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 2.5% ในสัปดาห์นี้ พร้อมด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นลง 10 จุดพื้นฐาน เพื่อตอบสนองต่อดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ลดลง
ดังนั้น ผู้ร่วมตลาดควรจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจของจีน เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นใน 90 วันข้างหน้าจะสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกภายในปี 2024 นอกจากนี้การพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนกับซาอุดิอาระเบียก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านี่เป็นจุดที่วอลล์สตรีท (Wall Street) กำลังทำผิดพลาดหลังจากที่ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 22 ปี ทั้งนี้เราอาจจะมีโอกาสที่เราจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในระยะเวลา 12 เดือนต่อไป
ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !