หุ้นมีม (Meme stock) ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุนในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยความหมายของหุ้นมีม หมายถึง สินทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทที่มีราคาขึ้นลงอย่างมาก เป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ดังที่เราได้เห็นตัวอย่างของการเติบโตของหุ้น Reddit Meme ที่รวดเร็วแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของสินทรัพย์ประเภทนี้โดยเฉพาะ
หลักการสำคัญของสินทรัพย์นี้คือราคาที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และไม่มีสัญญาณใดๆ บอกมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมีความเสี่ยง ในขณะเดียวกัน ก็อาจก่อให้เกิดกำไรมหาศาลได้ในะระยะเวลาอันสั้น โดยในวันนี้เราจะมาอธิบายความหมายของหุ้นมีมและตัดสินใจว่าควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่
นักเทรดผู้เชี่ยวชาญบางส่วนถือว่าการเทรดทรัพย์สินเหล่านี้เปรียบเสมือนการเข้าสมรภูมิรบ ทำให้เทรดเดอร์ที่มีทักษะการเทรดไม่มากพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเทรดหุ้นมีม เนื่องจากอาจยังมีข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพที่ชัดเจนของประสิทธิภาพของบริษัทหรือหุ้น
ในขณะเดียวกัน หากมีการให้ข้อมูลพื้นฐานและการสนับสนุนจากสาธารณชนมากพอแล้ว ราคาหุ้นมีมก็สามารถขึ้นลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าปัจจัยทางเทคนิค, ข้อมูลเชิงลึกของตลาด หรือปัจจัยพื้นฐานจะเป็นอย่างไร ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ค่อนข้างเสี่ยง อย่างไรก็ตาม นักเทรดรายวันและเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สามารถทำกำไรได้ดีอย่างแน่นอน
ราคาหุ้นที่ดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว มักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงแนวโน้มและราคาที่เปลี่ยนแปลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งทำให้หุ้นเหล่านี้น่าสนใจทั้งในแง่ของการเพิ่มทุนและความเสี่ยงในแง่ของการสูญเสียเงินทุน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับหุ้นมีม ได้แก่:
ลองนึกภาพหุ้นที่ได้รับกระแสจากโซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้ราคามีพุ่งอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ บางครั้งอาจเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันกว่าราคาจะถึงจุดสูงสุดเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้เรียกว่าการกระชากของราคา ราคาอาจพุ่งแค่ระยะสั้นๆ และกลับตัวลงสู่ระดับเดิมอย่างรวดเร็ว
หากแปลตามภาษากรีก meme หมายถึง “ขีดจำกัด” ในที่นี้เราอาจไม่ได้หมายถึงตัวหุ้นหรือบริษัทที่ออกหุ้น แต่อาจหมายถึงชุดข้อมูล “ที่จำกัด” ที่มีการส่งต่อกันในโซเชียลมีเดียเท่านั้น
ดังนั้น การลงทุนหุ้นมีมก็เหมือนการลงทุนที่เป็นกระแสซึ่งเกิดจากนักลงทุนรายอื่นๆ นั่นเอง
หุ้นมีมต่อไปนี้เป็นทรัพย์สินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นในปีนี้ เนื่องจากมีมูลค่าราคาตลาดสูง และส่วนใหญ่ออกโดยบริษัทที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นในวงการอุตสาหกรรมค้าปลีก อุปกรณ์โทรคมนาคม การพัฒนาซอฟต์แวร์ และอื่นๆ โดยหุ้นมีมที่น่าสนใจ ได้แก่:
บริษัท | Market Cap | รายละเอียดบริษัท |
---|---|---|
Bed Bath & Beyond (NASDAQ:BBBY) | $2.6 พันล้าน | บริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ในบ้าน |
Blackberry (NYSE:BB) | $5.9 พันล้าน | บริษัทสมาร์ทโฟนแห่งยุค 2000s ที่ผันมาเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ |
Nokia (NYSE:NOK) | $33 พันล้าน | บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลก |
Palantir (NYSE:PLTR) | $50 พันล้าน | บริษัทซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญด้าน Big data, AI และ Digital transformation |
Virgin Galactic (NYSE:SPCE) | $6.7 พันล้าน | ดั้งเดิมเป็นหุ้น SPAC และเป็นผู้ริเริ่มธุรกิจการเดินทางสู่อวกาศ |
หุ้นมีมแตกต่างจากสินทรัพย์ทั่วไปที่เราคุ้นเคย เพราะหุ้นเหล่านี้มีความเสี่ยงและให้ผลกำไรสูงภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเกิดจากกระแสโซเชียลมีเดียและความสนใจจากผู้คนบนโลกออนไลน์เป็นหลัก ราคาสินทรัพย์เหล่านี้ดีดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หรืออาจกลับตัวได้แบบไม่คาดคิด ที่น่ากังวลคือหุ้นประเภทนี้จะไม่มีปัจจัยพื้นฐานหรือปัจจัยทางเทคนิคใดที่จะช่วยคาดการณ์สถานการณ์ของหุ้นได้
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน