ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

กลยุทธ์เทรดทองคำที่ดีที่สุด สำหรับการเทรดรายวัน

หากจะพูดถึงกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเทรดทองคำในระยะสั้นๆ หรือเทรดแบบรายวันแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้นการเทรด “Gold ETF” หรือ “กองทุนรวมอีทีเอฟทองคำ” ซึ่งเป็นวิธีการที่แสนง่ายและมีโอกาสทำกำไรได้มากที่สุดวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าเทียบกับการเทรดฟิวเจอร์สทองคำทั่วๆ ไปแล้ว การซื้อขาย ETF ถือเป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องมากกว่า และที่สำคัญกองทุนยังไม่มีวันหมดอายุอีกด้วย ทำให้ Gold ETF เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถลงทุนทำกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

None

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเทรด ETF มีความน่าสนใจก็คือความหลากหลายในการลงทุนนั่นเอง เนื่องจากนักลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเทรด ETF ที่มีผลราคามาจากผู้ผลิตทองคำหลักๆ ของโลก หรือจะทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาทองคำก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนควรพึงระลึกไว้เสมอก็คือทองคำนั้นก็เปรียบเสมือนสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ ที่มูลค่าสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ในระยะยาว

ซึ่งก็ไม่แปลกที่นักเทรดส่วนใหญ่เข้ามาในตลาดด้วยความหวังที่จะดันราคาทองคำให้พุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ หรือทำกำไรจากสินทรัพย์ทองคำเหล่านั้น แต่รู้ไหมว่าการที่มีนักเทรดสนใจและลงทุนในสินทรัพย์นี้มากจนเกินไปทำให้เกิดสภาวะที่ความต้องการในการขายนั้นล้นตลาดได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ยังมีเทรดเดอร์จำนวนไม่น้อยที่ยังคงคว้าจังหวะและโอกาสในการทำกำไรจากทองคำได้ แม้ตลาดจะอยู่ในสภาวะเช่นนั้นก็ตาม

ปัจจัยที่ควรคำนึงในการใช้กลยุทธ์เทรดทองคำแบบรายวัน

นอกจากกองทุนอีทีเอฟทองคำแล้ว เทรดเดอร์อาจเลือกลงทุนในกองทุนทรัสต์ทองคำซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมในการลงทุนที่มีสภาพคล่องมากที่สุด และมีจำนวนหุ้นกว่า 2 ล้านหุ้นในตลาด ทั้งนี้ ไม่ว่าท่านจะเลือกลงทุนในรูปแบบใดก็ตาม องค์ประกอบสำคัญต่างๆ ที่ท่านควรพิจารณาก่อนจะลงทุน มีดังนี้:

  1. ติดตามภาพรวมการลงทุนทองคำในหลายๆ รูปแบบ เช่น หุ้นเหมืองทอง (Gold miner stock), ETF ทองคำ และหน่วยลงทุนทรัสต์ทองคำ เป็นต้น
  2. ติดตามและจับตา GLD และ IAU ซึ่งมีอิทธิพลหลักต่อราคาทองคำ
  3. สังเกตพฤติกรรมของราคาเพื่อจับจังหวะที่ดีที่สุดในการเปิดและปิดคำสั่งซื้อขาย
  4. อาศัยการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคเพื่อยืนยันการกลับตัวของเทรนด์ในระยะสั้น

หลังจากทราบแล้วว่าปัจจัยใดบ้างที่ท่านควรพิจารณาในการเทรดทองคำ ต่อไปลองมาดูกันว่าเมื่อไหร่เป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการใช้กลยุทธ์เทรดทองคำแบบรายวัน  

วิธีเลือกจังหวะที่ดีที่สุดในการใช้กลยุทธ์เทรดทองคำแบบรายวัน

ในการเทรดทองคำ ไม่สำคัญหรอกครับว่าท่านจะใช้ Indicator หรือเครื่องมือเทรดชนิดใดเป็นตัวช่วยในการระบุเทรนด์ หรือจังหวะการกลับตัวของเทรนด์ เพราะสำหรับสินทรัพย์ทองคำแล้วนั้น ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะความผันผวนของมันได้อย่างแน่นอนครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการ เทรดรายวัน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านสังเกตเห็นว่าราคาทองคำมีความเคลื่อนไหวบ่อยผิดปกติ รวมถึงตลาดทองคำเริ่มมีสภาพคล่องหรือมีการซื้อขายจำนวนมาก จังหวะนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการทำกำไร (หรืออาจขาดทุน) จากการเทรดทองคำในกรอบเวลาสั้นๆ (Short timeframe) 

เริ่มเทรดทองคำกันเลย

การเทรดทองคำด้วยกลยุทธ์เทรดแบบรายวัน มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:

  • ติดตามกองทรัสต์ทองคำ (Gold trust) และ ETF ทองคำ
  • หากราคาทองคำมีความผันผวน 2% ขึ้นไป ใช้ เครื่องมือ ATR วัดความผันผวนในกราฟทองคำรายวัน โดยใช้ timeframe 14 วัน
  • ตรวจสอบดูค่า Average True Range ณ ขณะนั้น แล้วหารกับราคาทรัสต์ทองคำและราคา ETF แล้วคูณด้วย 100
  • หากผลลัพธ์ออกมามากกว่า 2 หมายความว่าตลาดขณะนั้นเหมาะสำหรับการเทรดทรัสต์ทองคำและ ETF ทองคำ 

กลยุทธ์เทรดหุ้นเหมืองทอง, ETF ทองคำ และทรัสต์ทองคำ แบบรายวัน

หัวใจสำคัญในการเทรดทองคำให้ประสบความสำเร็จคือการติดตามทิศทางของเทรนด์ และออกคำสั่งซื้อขายตามแนวโน้มเหล่านั้น ในกรณีที่ตลาดขณะนั้นอยู่ในจังหวะขาขึ้น (Uptrend) เทรดเดอร์จะต้องติดตามการสวิงของราคาในระดับสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอทำกำไรจากการเปิดออเดอร์ Sell เมื่อราคา high นั้นเริ่มชะงักและราคาพร้อมที่จะกลับตัวลง โดยราคาอาจย่อลงในะระยะสั้นๆ หรือพักฐานประมาณ 2-3 แท่ง (สังเกตเห็นได้จากการใช้กราฟ 1-2 นาที) 

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

ในระหว่างการพักฐาน เทรดเดอร์อาจเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) แล้วรอให้ราคาเบรคทะลุระดับราคาสูงสุดเดิมหลังจากที่ราคามีการพักฐานเพื่อขายทำกำไร ทั้งนี้ เทรดเดอร์ก็อาจคาดการณ์ได้ว่าราคาอาจมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์ในขณะนั้นได้เช่นกัน แต่ถ้าหากราคาเริ่มหลุดระดับ higher low ของการสวิงรอบล่าสุดไปแล้ว ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเทรนด์ขาขึ้นนั้นเริ่มมีความเสี่ยง และเทรดเดอร์ยังไม่ควรเสี่ยงที่จะเปิดออเดอร์เทรด

กลยุทธ์เทรดรายวันสำหรับการตั้งเป้ากำไรทองคำ และกับดักราคา

กลยุทธ์นี้ใช้หลักการเดียวกันกับการเทรดทองคำรูปแบบก่อนหน้านี้ นั่นก็คือการติดตามกองทุน ETF ทองคำ และกอง Trust ทองคำที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของเทรนด์ ซึ่งอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เหมือนกันก็คือความผันผวนของตลาดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยมันจะคอยกระตุ้นให้เทรนด์เคลื่อนไหวไปถึงเป้าหมายในการทำกำไร (Profit target) และป้องกันไม่ให้เทรนด์คลาดเคลื่อนไปจากเดิมนั่นเอง

เดิมทีเป้ากำไรนั้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ความผันผวนที่ระดับ 2% จะทำให้ความเสี่ยงในการเทรดเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่า ซึ่งถ้าหากกราฟรายวันนั้นส่งสัญญาณบอกว่าเทรนด์มีความแข็งแกร่งและมีความผันผวนถึง 4% แสดงว่าเป้ากำไรของท่านจะต้องคิดเป็นอย่างน้อย 3-4 เท่าของความเสี่ยง  

อย่าลืมนะครับว่าหากท่านประมาทและใช้กลยุทธ์เทรดไม่ถูกวิธีแล้วล่ะก็... ท่านมีโอกาสเสี่ยงในการเทรดขาดทุนได้มากเลยทีเดียวครับ โดยข้อสำคัญที่ท่านควรระวังก็คือเมื่อท่านเปิดออเดอร์ ณ จังหวะที่ราคากลับตัว ราคาก็อาจมีการพักฐานนานจนเกินไป ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการเทรดเพิ่มมากขึ้นตาม และยิ่งไปกว่านั้น ราคาก็อาจมีการพักฐานหลายๆ รอบในช่วงกรอบเวลาสั้นๆ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าจังหวะใดจึงจะเหมาะสมที่สุดในการเปิดออเดอร์เทรด

สรุปเกี่ยวกับกลยุทธ์เทรดทองคำแบบรายวันที่ดีที่สุด

ถึงแม้ทองคำจะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมเทรดกันมากที่สุดก็จริง แต่มันไม่ได้การันตีว่าท่านจะทำกำไรได้มากมายมหาศาล ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทองคำไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์มืออาชีพเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดี วิธีการที่ดีที่สุดในการทำกำไรด้วยกลยุทธ์เทรดทองคำแบบรายวันก็คือการจับตาดูความผันผวนของตลาดทองคำ หากราคาทองคำไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวเท่าที่ควร นั่นหมายความว่ากองทุน ETF ทองคำและ Gold trust ก็ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการลงทุน พูดง่ายๆ ก็คือท่านจะต้องติดตามเทรนด์เพื่อเทรดสินทรัพย์ทองคำตามเทรนด์นั้นๆ และที่สำคัญอย่าลืมว่า “ความผันผวน” เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเทรดทองคำแบบรายวัน

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน