กลยุทธ์ Inside bar ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคเทรดที่เทรดเดอร์มืออาชีพนิยมใช้กันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นมือใหม่หัดเทรดสบายใจได้เลยครับ เพราะรูปแบบกราฟแท่งเทียนที่ต่อเนื่องและการกลับตัวของแท่งเทียนในกลยุทธ์นี้จะช่วยให้ท่านเทรดทำกำไรได้แน่นอน แถมกราฟยังอ่านได้ง่ายๆ ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ แต่น่าเสียดายที่เทรดเดอร์หน้าใหม่จำนวนไม่น้อยเลือกที่จะมองข้ามกลยุทธ์เทรดนี้ไป ในขณะที่นักเทรดมืออาชีพจำนวนมากกำลังใช้เทคนิคนี้ในการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงการกลับตัวของแนวโน้ม (เทรนด์) เพื่อเทรดทำกำไรนั่นเอง
แต่กลยุทธ์นี้ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สำหรับการเทรดในระยะสั้นๆ เนื่องจากมันจะช่วยระบุราคาที่เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าหรือเหนือกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือกลยุทธ์ inside bar ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเทรดได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเทรดทำกำไรในระยะสั้นๆ
Inside bar คือ รูปแบบแท่งเทียนหรือแพทเทิร์นราคาที่มีขนาดเล็กกว่าแท่งเทียนก่อนหน้าซึ่งอยู่ในกรอบเดียวกัน ซึ่งสังเกตได้ง่ายๆ ว่าแท่งเทียนนั้นจะมีราคา High ที่ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า (Lower high) และในขณะเดียวกัน ก็จะมีราคา Low ที่สูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า (Higher low) โดยเทรดเดอร์จะต้องพิจารณาจากตรงก้นหรือตรงกลางของแท่งเทียนแท่งก่อนหน้า (Prior bar) เพื่อหาความสัมพันธ์ของราคาที่ส่งผลต่อแท่งเทียนแท่งต่อๆ ไปนั่นเอง
โดย prior bar หรือที่เรามักเรียกกันว่า “Mother bar” คือแท่งเทียนที่อยู่ก่อนหน้า inside bar นั่นเองครับ โดยเรามักจะเรียกแท่งเทียนทั้ง 2 รูปแบบโดยย่อว่า:
ถึงแม้รูปแบบ inside bar จะสังเกตได้ไม่ยาก แต่ก็มักจะมีเทรดเดอร์หลายรายที่เข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ โดยเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นแท่งเทียน 2 แท่งที่มีราคา low และราคา high อยู่ในระดับเดียวกัน ก็อาจเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือรูปแบบ inside bar แต่นั่นไม่ใช่เลย สิ่งสำคัญที่ท่านควรสังเกตอยู่เสมอก็คือ ระดับราคา low และราคา high ของแท่งเทียน 2 แท่งจะต้องไม่เท่ากัน โดยท่านสามารถอ่านรูปแบบกราฟดังกล่าวได้ง่ายๆ ดังนี้:
อีกหนึ่งข้อดีสำคัญของการเทรด Forex ด้วยกลยุทธ์ inside bar คือการใช้ระดับแนวรับและแนวต้านสำคัญเพื่อช่วยระบุสัญญาณการกลับตัว
หากท่านต้องจะดูว่าแท่งเทียนที่เกิดขึ้นในกราฟราคานั้น ใช่แท่ง inside bar จริงหรือเปล่า? ท่านสามารถสังเกตได้ ดังนี้:
เทรดเดอร์มืออาชีพใช้กลยุทธ์ inside bar ในการเทรดตราสารต่างๆ ในตลาดที่มีเทรนด์ โดยใช้สไตล์การเทรดหรือเทคนิค breakout นั่นเอง โดยหากท่านตั้งใจจะเทรดโดยอาศัยการสังเกตระดับสำคัญต่างๆ ในกราฟราคาอยู่แล้วล่ะก็ ท่านอาจเทรดได้กำไรจากการเปลี่ยนเทรนด์ หากท่านสังเกตเห็น inside bar ซึ่งส่งสัญญาณการกลับตัว
โดยส่วนใหญ่แล้วนักเทรดมืออาชีพจะใช้ mother bar ในการตั้ง Stop loss ณ ระดับ high หรือ low ของแท่ง mother bar นั่นเอง โดยหากแท่ง mother bar มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ท่านควรตั้ง stop loss ณ จุดตรงกลาง และในกรณีอื่นๆ ท่านควรตั้ง stop loss ณ ปลายแท่ง MB ฝั่งตรงข้ามกับทิศทางที่ราคามีการ breakout อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการตั้ง stop loss จริงๆ แล้วนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ท่านสามารถเลือกระดับ stop loss ได้เองตามความเหมาะสมในการเทรดของท่าน
หากท่านไม่อยากเทรดตามกลยุทธ์การเทรด inside bar ทั่วๆไป ท่านสามารถลองใช้เทคนิคอื่นๆ ในการเทรด inside bar ซึ่งก็อาจทำให้ท่านเห็นมุมมองการเทรดแบบใหม่ๆ ก็เป็นได้ โดยเทรดเดอร์บางรายอาจตีความการเกิด inside bar ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าราคาอาจไม่สามารถย่อต่ำกว่านั้น หรือพุ่งสูงขึ้นกว่านั้นได้อีกแล้ว เนื่องจาก:
ไม่สำคัญหรอกครับว่าราคาเป็นเช่นนั้นเพราะอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพิจารณาความเป็นไปได้ในการผันผวนของตลาดที่เทรดเดอร์รายอื่นๆ อาจคาดไม่ถึง และเมื่อท่านสังเกตเห็นว่าเทรดเดอร์เหล่านั้น bid ราคาที่ต่ำลงหรือสูงขึ้นกว่าเดิม นั่นหมายความว่าความผันผวนในตลาดจะสูงขึ้น และถึงแม้เราไม่อาจยืนยันได้ว่าแท่ง inside bar นั้นจะส่งสัญญาณความผันผวนที่แม่นยำแบบ 100% แต่ที่มั่นใจได้เลยก็คือ inside bar จะส่งสัญญาณว่าราคาอาจมีความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการเทรดทำกำไรนั่นเอง
จริงอยู่ว่ากลยุทธ์ inside bar นั้นมาพร้อมกับแพทเทิร์นการเทรดที่ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากมันอาศัยทั้งสัญญาณความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและสัญญาณการกลับตัว และอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญในการเทรดด้วย inside bar ก็คือการ breakout ซ้ำๆ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเทรดได้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เทรดเดอร์จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ inside bar ร่วมกับเทคนิค forex อื่นๆ
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน