น้ำมันดิบฟิวเจอร์ส หรือ Crude oil futures เป็นอีกหนึ่งสินค้าโภคภัณฑ์ที่นักลงทุนนิยมเทรดกันมากที่สุดและมีการซื้อขายกันอยู่ตลอดเวลา การันตีด้วยปริมาณการซื้อขายหรือวอลุ่ม (Volume) จำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีสภาพคล่องสูง เหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นเทรดแบบรายวัน (Intraday) เป็นอย่างยิ่ง วันนี้ เราจึงมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับการเทรดน้ำมันดิบ พร้อมเผยขั้นตอนการเริ่มต้นเทรดและเทคนิคในการเทรดน้ำมันดิบที่ท่านสามารถนำไปใช้ในการเทรดแบบรายวันได้ รับรองได้เลยว่าอ่านจบพร้อมเทรดรับกำไรทันที!
ผู้ผลิตน้ำมันย่อมรู้ดีว่าการผลิตน้ำมันนั้นเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากมายที่ทำให้ราคาน้ำมันผันผวนอยู่บ่อยครั้ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนหันมาทำกำไรจากสัญญาน้ำมันฟิวเจอร์สเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านั้น นอกจากนั้น การเทรดน้ำมันดิบยังเพิ่มโอกาสให้นักเทรดรายวันสามารถรับประโยชน์จากการสวิงของตลาดโดยการใช้เทคนิคเทรดต่างๆ
จากที่กล่าวมา ทุกท่านคงเข้าใจได้ไม่ยากใช่ไหมล่ะครับ? อย่างไรก็ตาม นักลงทุนน้ำมันนั้นค่อนข้างล้นตลาดในหลายปีที่ผ่านมา แต่อย่ากังวลไปเลยครับ! แค่ท่านมีเทคนิคเทรดน้ำมันที่ใช้ได้ผลจริง ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!! โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงกลยุทธ์การเทรดน้ำมันแบบรายวันที่รับรองได้เลยว่าเทรดกำไรแน่นอนครับ
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเทคนิคในการเทรดน้ำมันดิบ รวมถึงลงลึกรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์เทรดรายวัน ลองมาทำความรู้จักองค์ประกอบเด่นๆ ของน้ำมันดิบกันก่อนดีกว่า! เพราะเมื่อท่านเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันดิบมากขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องเริ่มลงทุนเทรดจริงๆ ท่านก็จะสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจ อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ท่านลองเริ่มเทรดผ่าน บัญชีเดโม่ ก่อน เพื่อทดลองใช้เทคนิคเทรดของท่านแบบไร้ความเสี่ยง และไม่ต้องกังวลว่าจะเทรดขาดทุนหรือเสียเงินจริง โดยประเด็นต่างๆ ที่ท่านควรรู้เกี่ยวกับน้ำมันดิบ มีดังนี้:
เอาล่ะ! เมื่อท่านได้ทราบแล้วว่าองค์ประกอบสำคัญในการเทรดน้ำมันดิบนั้นมีอะไรบ้าง ได้เวลามาเริ่มต้นเทรดน้ำมันดิบจริงๆ กันแล้วล่ะครับ
การเทรดน้ำมันดิบเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สักตัวในการเริ่มต้นเทรด เนื่องจากมันไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เพียงฝากเงินเข้าบัญชีเทรดเล็กน้อย ท่านก็มีโอกาสทำกำไรมหาศาลโดยใช้เลเวอเรจ (Leverage) ที่สูงขึ้นกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างไรก็ดี ถึงแม้น้ำมันดิบจะมีสภาพคล่องสูง แต่ราคาน้ำมันก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน ข้อควรระวังก็คือท่านอาจคาดการณ์ราคาน้ำมันล่วงหน้าได้ยากเล็กน้อย นี่จึงเป็นสาเหตุที่ท่านควรติดตาม การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค อยู่เสมอ เพื่อช่วยให้เทรดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
นอกจากการติดตามข่าวแล้ว การใช้ Indicator เชิงเทคนิคก็ช่วยเพิ่มโอกาสเทรดกำไรได้ไม่น้อย ซึ่งโบรกเกอร์ MTrading ของเราไม่เพียงแค่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้ท่านเลือกเทรดเท่านั้น แต่ยังมีบริการให้ความรู้ส่งเสริมการเทรดที่หน้า เรียนรู้การเทรด อีกด้วย พร้อมทั้งคำแนะนำในการติดตั้งโปรแกรมเทรด และการใช้งาน indicator ช่วยเทรดต่างๆ บนแพลตฟอร์ม MT4
ตลาดน้ำมันค่อนข้างมีความแตกต่างจากตลาดคู่เงิน, โลหะ หรือสินทรัพย์อื่นๆ เนื่องจากผู้เทรดจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันค่อนข้างมาก และยังต้องตัดสินใจเทรดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทรดรายวัน ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องติดตามข่าวเกี่ยวกับ demand และ supply ของน้ำมัน รวมถึงพฤติกรรมราคา และการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (Trend) อยู่เสมอ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังผันผวนจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันค่อนข้างมีความอ่อนไหว ทำให้เทรดเดอร์ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้ละเอียดทุกครั้งก่อนตัดสินใจเทรดน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) หรือน้ำมัน WTI ก็ตาม
เฝ้าจับตาสถานการณ์น้ำมันที่เกิดขึ้นในอ่าวเปอร์เซีย โดยเหตุการณ์ต่างๆ จะส่งผลให้ราคาน้ำมัน และความต้องการน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งสถานการณ์น้ำมันในแต่ละฤดูก็จะมีความแตกต่างกันอีกด้วย
ตัวอย่าง: ในช่วงเดือน ส.ค. ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันจะลดฮวบภายในเดือน ต.ค. เนื่องจากเทศกาลวันหยุดกำลังจะสิ้นสุดนั่นเอง
นอกจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ภูมิอากาศก็มีผลต่อราคาน้ำมันด้วยเช่นกัน และเนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศที่แม่นยำได้ ทำให้น้ำมันดิบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหว เมื่อเทียบกับตราสารอื่นๆ เช่น หุ้น โดยราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นในฤดูหนาว และจะร่วงลงในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ
และเทคนิคสุดท้ายคือการหาความเชื่อมโยงระหว่างราคาน้ำมันและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยหากเงินดอลลาร์มีความแข็งค่ามากขึ้น ราคาน้ำมันดิบก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และก็แน่นอนว่าหากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาน้ำมันก็จะตกลงเช่นกัน อย่างไรก็แล้วแต่ เทรดเดอร์ควรหมั่นติดตามข้อมูลย้อนหลัง และเปรียบเทียบปัจจัยต่างๆ เพื่อสังเกตแพทเทิร์นราคาที่ชัดเจนประกอบการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน