ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

เผยข้อดี-ข้อเสียของ Stock Dividend Yield แบบละเอียด มือใหม่ต้องรู้!

อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของหุ้น (Stock dividend yield) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการขยายพอร์ตการลงทุนของท่าน เพราะนักลงทุนสามารถเลือกการจ่ายเงินปันผลที่จะมีการจ่ายทุกปีจากบริษัทที่ออกหลักทรัพย์จำนวนมากพร้อมกัน ซึ่งเป็นการจ่ายเปอร์เซ็นต์ของราคาสินทรัพย์ปัจจุบันให้กับผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม แม้บางคนจะมองว่าเงินปันผลจากหุ้นเป็นโอกาสในการลงทุนที่ปลอดภัยในระยะยาว แต่ผลตอบแทนจากเงินปันผลก็อาจมีข้อเสียบางอย่างที่นักเทรดต้องระวัง

None

ในบทความวันนี้ เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีคำนวณผลตอบแทนจากเงินปันผล รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการเก็บหุ้นปันผลไว้ในพอร์ตของท่าน

ทำความรู้จัก Dividend Yield

อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Dividend yield) เป็นการจ่ายผลตอบแทนจากเปอร์เซ็นต์ของราคาหุ้น ปัจจุบันที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นรายปี โดยนักลงทุนสามารถทราบยอดเงินปันผลที่แน่นอนสำหรับราคาหุ้นที่ได้ลงทุนไปวันนี้ โดยมีโอกาสที่เงินปันผลจะยังคงเท่าเดิมตลอดระยะเวลาในการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือในความเป็นจริงผลตอบแทนจากเงินปันผลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทที่จะเพิ่มหรือลดเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งเงินปันผล รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ความผันผวนของตลาด ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงเงินปันผลอาจไม่ได้เกิดจาการเคลื่อนไหวของตลาดเสมอไป แต่ก็ถือเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งที่จะบ่งบอกมูลค่าการซื้อขายหุ้นและเลือกสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนตรงกับความต้องการของท่านได้

Industry-best trading conditions
Deposit bonus
up to 200% Deposit bonus 
up to 200%
Spreads
from 0 pips Spreads 
from 0 pips
Awarded Copy
Trading platform Awarded Copy
Trading platform
Join instantly

จะคำนวณ Dividend Yield อย่างไร?

สูตรในการคำนวณผลตอบแทนจากเงินปันผลขึ้นอยู่กับโครงสร้างการจ่ายเงินปันผล ในขณะที่บางบริษัทอาจจ่ายเงินให้ผู้ถือหุ้นเป็นรายเดือน บริษัทอื่นๆ อาจจ่ายเป็นไตรมาส รายครึ่งปี หรือรายปี โดยในการคำนวณผลตอบแทน ท่านต้องคูณรายได้จากการชำระเงินครั้งเดียวด้วยจำนวนการชำระเงินรายปี (คูณด้วย 4 สำหรับรายไตรมาส 12 สำหรับรายเดือน และอื่นๆ)

ว่าแต่กำหนดการชำระเงินแบบไหนที่ดีที่สุด? นักลงทุนบางท่านอาจต้องการการจ่ายเงินที่รวดเร็วจึงเลือกรับเงินปันผลรายเดือน แต่ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทที่จะจ่ายเป็นรายเดือนเสมอไป ท่านต้องเลือกปันผลหุ้นประเภทที่อ้างอิงถึงอสังหาริมทรัพย์หรือหมวด REIT เพราะมีข้อได้เปรียบด้านภาษีและมีโอกาสที่จะให้เงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกหุ้นปันผล

เช่นเดียวกับการจ่ายเงินปันผลทุกประเภท นักลงทุนจะต้องเข้าใจว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงไม่ได้น่าลงทุนเสมอไป เพราะถึงแม้บริษัทที่มีผลประกอบการดีดูเหมือนจะเสี่ยงน้อยก็จริง แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง ดังนี้:

  • การเติบโตของปันผล (Dividend growth) – โอกาสที่ผลตอบแทนจะโตในระยะยาว
  • สมรรถภาพทางการเงิน (Financial strength) – ความพร้อมของเงินทุนหมุนเวียนและเงินสดที่เพียงพอเพื่อสำรองไว้ในวิกฤตหรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
  • ข้อดีที่เหนือเปรียบ (Competitive advantage) – ข้อแตกต่างของบริษัทที่เลือกจากคู่แข่งหลักและประโยชน์ที่จะได้รับ
  • ความมั่นคงของปันผล (Dividend stability) – วัดจากอัตราการจ่าย (กำไรที่บริษัทสามารถจ่ายเป็นเงินปันผลได้)
  • กับดักเงินปันผล (Dividend trap) – ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงบางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาของบริษัท ในบางอุตสาหกรรม ธุรกิจจ่ายผลตอบแทนที่สูงขึ้นเนื่องจากแนวโน้มการเติบโตและการพัฒนาที่ลดลง นอกจากนี้ หากผลตอบแทนอ้างอิงสูงกว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด เป็นไปได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบริษัทอย่างแน่นอน

ข้อดีและข้อเสียของ Dividend Yield

ถึงแม้หุ้นที่มีเงินปันผลอาจจะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการกระจายพอร์ตการลงทุนของท่าน อย่างไรก็ตาม ท่านควรทำความเข้าใจทั้งข้อดีและข้อเสียของหุ้นปันผลให้ดีเสียก่อน

ข้อดี: ประการแรก อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดว่าบริษัทนั้นๆ เป็นอย่างไรและควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่ โดยใช้สูตรง่ายๆ ที่ว่า บริษัทสามารถจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่สำคัญ ยังช่วยให้สามารถประเมินสินทรัพย์เมื่อใช้ระดับมูลค่าในอดีตและการติดตามผลดำเนินการของบริษัท

ข้อเสีย: นักเทรดมือใหม่หลายรายอาจหวังพึ่งผลตอบแทนจากหุ้นปันผลในทางที่ผิดเท่านั้น ขณะที่นักลงทุนบางรายอาจเลือกวางใจในบริษัทที่ไม่ได้มีผลดำเนินการตามที่เห็น ดังที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนจากการลงทุนได้ในที่สุด

ที่สำคัญ ในปัจจุบันการหลอกล่อให้ลงทุนด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลกลายเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยครั้ง ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะลงทุนอะไร อย่าใช้เงินทุนทั้งหมดลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มั่นใจและใช้วิจารณญาณให้ดีก่อนเลือกลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจตามมาในภายหลัง

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน