ความผิดพลาดบ่อยครั้งในการซื้อขายนับว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นผู้เริ่มต้นการเทรด ซึ่งข้อผิดพลาดในการซื้อขายส่วนใหญ่มักมาจากความรู้ที่ไม่เพียงพอ เทรดเดอร์มือใหม่มักมั่นใจว่าตลาดการเงินจะเหมือน นครทองคำเอลโดราโด (Eldorado) ที่ซึ่งทุกคนสามารถร่ำรวยได้ในไม่กี่วินาที
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ นี่คือสาเหตุที่นักลงทุนรายใหม่ 90% ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น กุญแจสู่ความสำเร็จไม่ใช่แค่การรู้จักวิธีการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังต้องระบุข้อผิดพลาดที่สำคัญผ่านการตระหนักรู้ด้วยตนเอง กล่าวง่ายๆก็คือ เมื่อคุณเข้าใจปัญหา คุณก็จะสามารถหาวิธีจัดการกับมันได้
ในทางกลับกัน การพยายามแก้ไขทุกอย่างในครั้งเดียวอาจจะเป็นเรื่องยากลำบาก โดยที่อาจจะทำให้เทรดเดอร์รู้สึกสับสนและเครียดจนเกินไป ดังนั้นควรไปตามเส้นทางทีละขั้นตอนในขณะที่กำจัดข้อผิดพลาดในการเทรดไปที่ละอย่าง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เริ่มต้นการเทรดควรพิจารณาแนวคิดสำคัญอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการซื้อขาย การจัดการเงินทุน การควบคุมอารมณ์ ฯลฯด้วยเช่นกัน
ในบทความนี้ เราจะทบทวนข้อผิดพลาด 8 ประการที่พบได้บ่อยและวิธีการหลีกเลี่ยงมัน
เทรดเดอร์มือใหม่ส่วนใหญ่มักมีข้อผิดพลาดในการเทรดที่เหมือนๆกันเมื่อเข้าสู่ตลาดและเริ่มการซื้อขายมากขึ้น สิ่งที่พบบ่อยที่สุดมักเกี่ยวข้องกับความรู้ที่ไม่เพียงพอ การขาดแผนการเทรดที่มีขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุน รวมไปถึงการไม่สามารถรับมือกับความกลัวในการเทรดความวิตกกังวล และอารมณ์เชิงลบอื่นๆที่ซึ่งสามารถทำลายแม้กระทั่งกลยุทธ์ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าประสบความสำเร็จที่สุด
ขณะที่ผู้ร่วมตลาดบางรายมีความมั่นใจในตนเองมากเกินไป บางส่วนกลับอาจขาดความมุ่งมั่นในการดำเนินการซื้อขาย โดยก็ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดที่เผชิญอยู่ ไม่ว่าจะแบบไหน ล้วนส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงินทุนมหาศาล การบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินที่ไม่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดในการซื้อขายที่พบบ่อยที่สุดที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องหลีกเลี่ยง
มาดูข้อผิดพลาดในการซื้อขายที่พบบ่อยแต่ละข้ออย่างละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มระดับการตระหนักรู้ของเรา
ตลาดกรเงินเป็นสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ตลาดมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการเคลื่อนไหวที่คาดไม่ถึงและยากที่จะคาดเดาได้ตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณไม่อยากถูกครอบงำ การเรียนรู้พื้นฐานการซื้อขายอย่างน้อยก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าราคา/เทรนด์แนวโน้มทำให้เกิดการเคลื่อนไหวนั้นได้อย่างไรและทำไม ด้วยแหล่งการศึกษาที่สามารถเข้าถึงได้ฟรีมากมาย การศึกษาความรู้พื้นฐานจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แทนที่จะดำเนินการซื้อขายแค่ตามสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ การเรียนรู้เงื่อนไขการซื้อขายพื้นฐานบางอย่างถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากจะช่วยให้กำหนดสินทรัพย์ที่ตรงตามข้อกำหนดด้านกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสมกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น การละเลยต่อความสามารถในการเรียนรู้ก่อนเข้าสู่ตลาดเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่มือใหม่หลายคนมักจะทำ
เมื่อคุณเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ คุณก็คงจะวางแผนใช่ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนงบประมาณ หลักการทำงานเดียวกับตลาดการเงิน การพัฒนาแผนคือการอธิบายกลยุทธ์ในอนาคตของคุณโดยละเอียดและยึดตามแผนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
จริงๆแผนที่ว่า ก็คือเส้นทางการซื้อขายของคุณที่ซึ่งคุณจะรู้เสมอว่าต้องทำอะไรแม้ตลาดจะมีการเคลื่อนไหวโดยไม่คาดคิด ถึงกระนั้น มือใหม่ส่วนใหญ่มักล้มเลิกแผนการซื้อขายทันทีหลังจากประสบกับความเลวร้ายในตลาดครั้งแรก แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลให้คุณต้องทำอย่างนั้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะชนะตลอดเวลาคำถามกลับกันก็คือคุณจะสูญเสียเงินเป็นจำนวนเท่าใดหากมีหรือไม่มีแผนการเทรด
ข้อความนี้หมายถึงความเชื่อที่บางครั้งมักเกิดขึ้นกับผู้เริ่มต้นการเทรดที่อาจความขาดทั้งความรู้และประสบการณ์ในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยพวกเขาอาจเริ่มต้นด้วยความคิดว่าการลงทุนในตลาดทางการเงินนั้นเป็นเรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่มักมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้างโชคลาภได้ในคราวเดียว
ในกรณีส่วนใหญ่ มักจะนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่ เนื่องจากการเทรดนั้นไม่ใช่เกมหรือการพนัน เราต้องตระหนักดีว่าจะต้องดำเนินการขั้นตอนต่อไปอย่างไร และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการตัดสินใจจึงมีความสำคัญ เพราะไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้นหรือระยะยาว ไม่มีใครสามารถรับประกันความสำเร็จที่รวดเร็วได้ ตลาดการเงินมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เทรดเดอร์มือใหม่จำเป็นต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ ซึ่งพวกเขาจะรับความเสี่ยงเหล่านั้นได้หรือไม่? นั่นคือคำถาม
จิตวิทยาในการเทรดจะคำนึงถึงการควบคุมอารมณ์ของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวนอย่างสูง แม้แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จก็อาจจะตัดสินใจตามอารมณ์ของตนแทนที่จะทำตามแผน
การควบคุมอารมณ์จึงเป็นเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเห็นว่าสถานการณ์ที่คาดหวังอยู่กลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คืออดทนกับมัน อีกหนึ่งวิธีคือการยอมรับความจริงที่ว่าคุณกำลังจะพ่ายแพ้ ทุกคนล้วนเคยสูญเสียไม่มากก็น้อย การคาดหวังความสำเร็จ 10% จากการซื้อขายแต่ละครั้งนั้นอาจจะเป็นไปไม่ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้เริ่มต้นการเทรดควรเลี่ยงการตัดสินใจที่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง ความสำเร็จอยู่ที่การปฏิบัติตามแผนและไม่ควรเสี่ยงเกินกว่าที่คุณยอมรับได้ ยิ่งมีการซื้อขายมากเท่าไร เทรดเดอร์ก็จะยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้นในการทำความเข้าใจถึงวิธีดำเนินการภายใต้สภาวะตลาดที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไป
น่าเสียดายที่ไม่ใช่มือใหม่ทุกคนที่จะสามารถรับมือกับความอิ่มเอมใจได้หลังจากประสบความสำเร็จครั้งแรก และนี่มักจะเป็นตอนที่พวกเขามีความมั่นใจมากเกินไป พวกเขาอาจจะเริ่มคิดว่าพวกเขาเชี่ยวชาญในตลาดการเงินแล้วและไม่รู้สึกถึงความเสี่ยงที่อาจซ่อนอยู่ ซึ่งนักลงทุนที่ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นนั้นอาจจะนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้
ในทางตรงกันข้าม หากผลลัพธ์ของการเทรดไม่ประสบผลสำเร็จก็อาจส่งผลให้เกิดความปรารถนาที่จะไล่ตามการขาดทุนเช่นกัน และในช่วงเวลานี้ที่เทรดเดอร์มักจะเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่าการแก้แค้นด้วยการเทรดเพื่อชดเชยความล้มเหลวในครั้งก่อนๆ โดยทั่วไปแล้วสถานการณ์นี้จะนำไปสู่การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่า กฎข้อสำคัญคือ ทำตามแผนเสมอ และใช้หลักการการบริหารความเสี่ยงและจัดการการเงินให้เงินทุนของคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย
การจำกัดความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการเงินทุนที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยมีวิธีการค่อนข้างง่าย: อย่าซื้อขายเกิน 5% ของยอดคงเหลือทั้งหมดของคุณ ข้อผิดพลาดในการเทรดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นผลให้ผู้ร่วมตลาดอาจซื้อขายมากขึ้นเนื่องจากมั่นใจในตนเองจนเกินไปหรือมีเป้าหมายในการไล่ตามการสูญเสียที่เกิดขึ้น
เราขอแนะนำให้ทำตามเป้าหมายเดิมของตนเองที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มิฉะนั้น คุณอาจจะเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจทั้งที่ไม่เข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร นอกจากนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการซื้อขายเพิ่มเติม แม้ว่าคุณจะแน่ใจ 100% ว่าตลาดจะยังคงเป็นช่วงขาขึ้นก็ตาม
ข้อผิดพลาดในการซื้อขายครั้งก่อนอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดอื่นๆด้วยการเปิดตำแหน่งซื้อขายเพิ่มมากเกินไป เมื่อคุณลงทุนมากเกินไปในสินทรัพย์หรือตำแหน่งใดเพียงอย่างเดียว คุณอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการซื้อขายตามไปด้วย โบราณว่าไว้ว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว”
นี่คือจุดที่การกระจายพอร์ตการลงทุนอาจเป็นแนวคิดที่ดีกว่า การลงทุนในตลาดที่แตกต่างกันจะรักษาเงินทุนของคุณให้ปลอดภัยและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จมากขึ้น ในทางกลับกัน เทรดเดอร์มือใหม่บางคนก็มีแนวโน้มที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนของตนมากเกินไปอย่างรวดเร็ว
การกระจายความเสี่ยงไม่มีอะไรที่เหมือนกับการซื้อสินทรัพย์โดยไร้เหตุผล ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนที่เหมาะสม การสำรวจตลาดต่างๆ และการพิจารณาถึงสินทรัพย์ที่เหมาะสมที่สุดที่อาจให้ผลตอบแทนที่ดี
หากคุณถามเทรดเดอร์มืออาชีพว่าพวกเขามีบันทึกการซื้อขายหรือไม่ คำตอบคือ “ใช่” แน่นอนว่าไม่ใช่การเขียนเล่าความรู้สึกหรืออารมณ์เกี่ยวกับการเทรดครั้งต่อไปของคุณในตลาด บันทึกการซื้อขายคือการจดบันทึกหลังการซื้อและขายแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสำเร็จหรือขาดทุนก็ตาม
ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์สิ่งที่ผิดพลาดหรือวิธีการที่ถูกต้องได้ แล้วนำมาปรับแผนการซื้อขายหรือกลยุทธ์ รวมไปถึงพัฒนากระบวนการตัดสินใจให้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้สภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป ทั้งนี้ บันทึกการซื้อขายจะเป็นผู้ช่วยที่สำคัญของคุณซึ่งช่วยให้คุณย้อนกลับไปดูประวัติการซื้อขาย คำนึงถึงประสบการณ์ก่อนหน้า และยกระดับการซื้อขายของคุณให้ไปอีกระดับ
ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ เทรดเดอร์ทุกคนล้วนเคยเจอแม้จะมีความรู้หรือประสบการณ์ทางการเงินก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้หมายความว่าคุณควรยอมแพ้ในการเทรดโดยทันที กลับกันเราควรตระหนักถึงความผิดพลาดเหล่านั้นและหลีกเลี่ยงมันในอนาคต
การมีแผนการซื้อขายที่ละเอียดและชัดเจนจะเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะช่วยพัฒนาการตัดสินใจของคุณให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังทำให้คุณเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการขั้นใดต่อไปและเพราะเหตุใด เทรดเดอร์มือใหม่ไม่ควรมองข้ามการศึกษาความรู้ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงและจัดการเงินทุน รวมไปถึงการควบคุมอารมณ์และการวางแผนงบประมาณ