ทุกวันนี้มีการเปิดตัวเหรียญคริปโตฯ ใหม่ๆ จำนวนมาก ทำให้นักเทรดได้รับผลประโยชน์จากสกุลเงินดิจิทัลแต่ละตัวแตกต่างกัน ในขณะที่ตลาดเองก็มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สังเกตได้จาก BTC ที่ได้แตะระดับสูงสุดโดยมีมูลค่าตลาดมหาศาลกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ก็ธุรกิจจำนวนมากที่เริ่มนำ Bitcoin และเหรียญต่างๆ มาใช้ในการทำธุรกรรมในกิจการของพวกเขา เพื่อตอบสนองความต้องการและความสะดวกสบายของลูกค้า แม้จะมีองค์กรบางแห่งที่ยังคงใช้เงินกระดาษเป็นหลักแต่ในที่สุดก็ต้องปรับมาใช้เงินดิจิทัลมากขึ้นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรมต่างๆ
ในบทความวันนี้ เราจะมาพูดถึง 5 ข้อดีของการทำธุรกิจด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่อาจเป็นไปได้จริงในระยะสั้นๆ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินข้อดีของคริปโตในแง่ของการทำธุรกรรมแบบกระจายอำนาจโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วมาบ้างแล้ว อีกทั้งคริปโตยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนมหาศาลอีกด้วย
แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยคนพูดถึงข้อดีของสกุลเงินดิจิทัลในแง่ของการทำธุรกิจ ขณะที่บริษัทบางแห่งก็ยังมองข้ามและไม่ได้ตระหนักถึงศักยภาพในการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการทำธุรกรรม บ้างก็ยังยึดติดกับรูปแบบการชำระเงินแบบเดิมๆ
ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดู 5 ข้อดีของการใช้คริปโตในการประกอบธุรกิจ พร้อมแล้ว… ไปดูกันเลย!
เหรียญหลักส่วนใหญ่สามารถใช้ดำเนินการธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งผู้ใช้ยังไม่ต้องกังวลถึงค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นต่างๆ ทำให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้บริการที่มีศักยภาพ
หากธุรกิจเริ่มตัดสินใจที่จะใช้คริปโตเป็นหนึ่งในเกตเวย์การชำระเงิน เชื่อว่าจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับธุรกิจนั้นๆ อย่างแน่นอน
อีกหนึ่งในประโยชน์หลักของสกุลเงินดิจิทัลก็คือต้นทุนที่ลดลงนั่นเอง โดยผู้ดำเนินธุรกิจต้องเลือกว่าจะอาศัยตัวกลางในการทำธุรกรรม (ธนาคาร) หรือต้องการทำธุรกรรมโดยตรง ถามว่าการทำธุรกรรมแบบไม่ผ่านตัวกลางมีข้อดีอย่างไร? พูดง่ายๆ ก็คือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ลดลง รวมถึงความเสี่ยงในการถูกเอาผลประโยชน์จากตัวกลางนั่นเอง ซึ่งอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการลดต้นทุนจากการโดนเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
ข้อดีนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อแรก เนื่องจากนักธุรกิจส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะมีระบบการชำระเงินที่รองรับกับลูกค้าในหลายๆ ประเทศ ซึ่งเมื่อก่อนอาจเป็นเรื่องยากเพราะจะต้องดำเนินการผ่านเกตเวย์ต่างๆ ที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมที่สูง ขณะที่บางประเทศอาจไม่รองรับตัวเลือกการชำระเงินดังกล่าว
การชำระเงินด้วย Cryptocurrency จึงเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบ เพราะท่านสามารถให้บริการและทำธุรกรรมด้วยมูลค่าเหรียญที่มีมูลค่าเท่ากันทั่วโลก รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่เท่ากันในทุกประเทศ ดังนั้นรายได้ในการดำเนินธุรกิจจึงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่โดยทั่วไปจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในแต่ละประเทศ
ผู้ดำเนินธุรกิจหลายรายจะต้องเคยเจอเหตุการณ์ที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแล้วยกเลิกการชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกค้าได้ใช้สินค้าไปแล้ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจของท่าน
การทำธุรกรรมด้วยคริปโตจะป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวได้ เนื่องจากการผู้ซื้อจะไม่สามารถปฏิเสธการชำระเงินด้วยคริปโตได้ในภายหลัง วิธีการเดียวคือลูกค้าจะต้องพูดคุยเพื่อขอเงินคืนและได้รับความยินยอมจากเจ้าของธุรกิจโดยตรง
“เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ” – เป็นคำมั่นที่หลายบริษัทใช้ในการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้าของกิจการต่างๆ ไม่สามารถป้องกันความเป็นส่วนตัวของลูกค้าได้มากขนาดนั้น อย่างน้อยก็คือการใช้เครื่องมือเดิมๆ เช่น โปรโตคอล HTTPS และการเข้ารหัส 128-bit เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ว่ามานี้อาจไม่สามารถป้องกันการละเมิดข้อมูลของผู้ใช้ได้จริงๆ แต่หากดำเนินธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัล ผู้ใช้บริการจะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านแบบ 100% ดังนั้น ธุรกิจที่ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของลูกค้าจริงๆ จึงหันมาใช้คริปโตเพื่อป้องกันความปลอดภัยของลูกค้า
แม้การใช้เหรียญคริปโตในการดำเนินธุรกรรมอาจยังไม่แพร่หลายในทุกๆ กิจการ แต่ก็เริ่มมีธุรกิจหลายแห่งที่รองรับการใช้จ่ายด้วยคริปโตเพื่อให้ขยายโอกาสให้ธุรกิจรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า, ลดต้นทุน, การทำธุรกรรมได้ทั่วโลก และเพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลนั่นเอง
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน