คู่เงิน USDJPY พุ่งสูงขึ้นติดต่อกันสามวันในขณะที่ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 1990 สอดคล้องกับแนวโน้มการยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) โดย BoJ ยังคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ไม่เปลี่ยนแปลงตามการคาดการณ์ แต่ละเว้นการกล่าวถึงการดำเนินการซื้อพันธบัตรซึ่งคาดว่าจะบ่งบอกถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ คู่เงินเยนจึงขยับตัวสูงขึ้นแตะแนวต้านที่ลาดเอียงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 155.90 เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไข RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทซื้อที่มากเกินไปและสัญญาณขาขึ้นของ MACD ที่ลดต่ำลงเมื่อเร็วๆนี้ ระดับราคาจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการดึงกลับ ซึ่งในทางกลับกันจะเน้นไปที่ระดับราคาที่ราวๆ 155.00 และจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนที่ประมาณ 154.80 อย่างไรก็ตาม เส้นด้านล่างสุดของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงอายุหกสัปดาห์ที่ราวๆ 154.20 จะเป็นกุญแจสำคัญในการจับตามองการเข้ามาของแรงเทขาย ในกรณีที่คู่เงิน USDJPY ยังคงร่วงลงผ่านระดับราคาที่ราวๆ 154.20 เส้นแนวรับอายุหกเดือนที่ประมาณ 151.70 และพื้นที่ที่ประกอบด้วยระดับราคาหลายระดับที่ทำเครื่องหมายตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ประมาณ 150.90-80 จะท้าทายช่วงแนวโน้มขาลงคู่เงิน USDJPY ต่อไป เหนือสิ่งอื่นใด แรงเทซื้อคู่เงิน USDJPY ยังคงมีความหวัง เว้นแต่ว่าจะได้เห็นการปิดตัวรายวันใต้เส้นแนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 150.30
ในทางตรงกันข้าม การพุ่งสูงขึ้นที่ประสบความสำเร็จทะลุแนวต้านอายุหลายเดือนดังที่กล่าวมาข้างต้นที่ราวๆ 155.90 จะต้องได้รับการยืนยันจากเส้นบนสุดของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาลงระยะสั้นที่ประมาณ 156.10 หากแรงเทซื้อคู่เงิน USDJPY ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทซื้อที่มากเกินไปและรักษาระดับไว้เหนือระดับราคาที่ราวๆ 156.10 โอกาสที่ราคาจะค่อยๆขยับตัวขึ้นไปที่ราวๆ 160.00 และจุดสูงสุดในปี 1990 ที่ประมาณ 160.40 จะไม่สามารถตัดออกไปได้
สรุปภาพรวม คู่เงิน USDJPY ยังคงเป็นช่วงแนวโน้มขาขึ้นเหนือระดับราคาที่ราวๆ 150.30 แต่มีแนวโน้มที่จะเกิดการดึงกลับระยะสั้นในเร็วๆนี้