คู่เงิน USDJPY แตะกับแนวต้านอายุห้าสัปดาห์โดยลดลงใต้แนวรับที่เคลื่อนที่เป็นแนวนอนในรอบเดือนและเส้น 200-SMA เนื่องจากตลาดสัมผัสได้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) กำลังจะชะลอการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย รวมไปถึงรายงานการจ้างงานที่ไม่น่าประทับใจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ปัจจัยที่อาจช่วยรักษาแรงเทขายเงินเยนให้ยังมีความหวังแม้จะมีการดีดตัวขึ้นครั้งล่าสุด คือ สัญญาณ MACD ที่เป็นช่วงขาลงและระดับเส้น RSI (14) ที่ลาดลง ด้วยเหตุนี้ ช่วงแนวโน้มขาลงจึงพร้อมที่จะท้าทายระดับราคาที่คิดเป็นตัวเลขกลมๆที่ 141.00 ซึ่งประกอบด้วยระดับค่า Fibonacci retracement 50% ของเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม หลังจากนั้น ระดับค่า Fibonacci retracement 38.2% ที่ราวๆ 140.30 และระดับราคาที่ประมาณ 140.00 อาจทดสอบการเคลื่อนที่ของช่วงแนวโน้มขาลงได้ และเป็นที่น่าสังเกตว่าแนวรับที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอายุสามสัปดาห์ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 139.55 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อ
ในทางกลับกัน แนวรับที่เปลี่ยนเป็นแนวต้านดังกล่าวข้างต้นและเส้น 200-SMA ที่ประมาณ 141.85-142.00 อาจท้าทายแรงเทซื้อคู่เงิน USDJPY ได้ก่อนที่จะนำไปยังอุปสรรคที่เส้นระดับราคาแนวนอนอายุห้าสัปดาห์ที่ราวๆ 144.00 ในกรณีที่คู่เงินเยนพุ่งสูงขึ้นเกินระดับราคาที่ราวๆ 144.00 จะเป็นผลให้จุดสูงสุดประจำปีที่ทำเครื่องหมายในเดือนมิถุนายนที่ประมาณ 145.10 จะอยู่ในความสนใจต่อไป ทั้งนี้ควรสังเกตว่า ถ้าหากระดับราคาสามารถพุ่งสูงขึ้นผ่านระดับราคาที่ราวๆ 145.10 ไปได้อาจทำให้ช่วงแนวโน้มขาขึ้นพุ่งไปที่ระดับราคาที่คิดเป็นตัวเลขกลมๆที่ 150.00 ได้เช่นเดียวกันก่อนที่อาจจะไปสู่จุดสูงสุดของปีหน้าที่ประมาณ 152.00
สรุปภาพรวม การพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoJ ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย Yield Curve Control (YCC) ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงิน USDJPY แต่สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯอาจสามารถช่วยให้คู่เงิน USDJPY มีทิศทางไปในเชิงบวกได้อีกสัปดาห์ ดังนั้นจึงแนะนำให้ระมัดระวังในขณะที่ซื้อขายคู่เงินเยน