ทองคำเตรียมพร้อมเข้าสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง เมื่อการรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯใกล้เข้ามา
ราคาทองคำแตะที่แนวรับ 200-day Exponential Moving Average (EMA) อีกครั้ง หลังจากที่ไม่สามารถทะลุระดับเดียวกันนี้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมภายในรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาขึ้นอายุ 2.5 เดือน นอกจากนี้สัญญาณ MACD ที่ซบเซาและสัญญาณ RSI (14) ที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งไม่ใช่การบ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไปยังสนับสนุนให้ XAUUSD ร่วงลงทะลุแนวรับ 200-EMA ที่ประมาณ $1,910 ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำทดสอบระดับราคาที่ราวๆ $1,900 ได้ อย่างไรก็ตาม เส้นด้านล่างของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาขึ้นดังกล่าวที่ประมาณ $1,880 อาจท้าทายแรงเทขายสินค้าโภคภัณฑ์ในภายหลัง ในกรณีที่ราคายังคงร่วงลงผ่านระดับราคาที่ราวๆ $1,880 ระดับค่า Fibonacci retracement 78.6% ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมซึ่งอยู่ที่ราวๆ $1,860 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อก่อนที่ระดับราคาจะไปสู่จุดต่ำสุดของต้นปี 2023 ที่ประมาณ $1,805 ต่อไป
ในทางตรงกันข้าม การฟื้นตัวของราคาทองคำจะตั้งเป้าไปที่อุปสรรคที่เส้น 100-EMA ที่ประมาณ $1,930 หลังจากนั้น เส้นบนสุดของรูปแบบกราฟขาขึ้นที่กล่าวถึงข้างต้นที่ราวๆ $1,945 และระดับสูงสุดในรอบเดือนที่ราวๆ $1,953 อาจท้าทายแรงเทซื้อ XAUUSD ได้ ในกรณีที่ราคาทองคำยังคงแข็งค่าเหนืออุปสรรคที่ $1,953 จะไม่สามารถมองข้ามโอกาสที่จะขยับขึ้นสู่จุดสูงสุดของเดือนกรกฎาคมที่ราวๆ $1,987 และจากนั้นจะไปที่เป้าหมายทางทฤษฎีของรูปแบบการกลับตัวของกราฟขาขึ้นที่ราวๆ $2,045 ต่อไป และเป็นที่น่าสังเกตว่าระดับราคาที่ราวๆ $2,000 ทำหน้าที่เป็นตัวกรองเพิ่มเติมไปทางทิศเหนือ
สรุปภาพรวม ราคาทองคำดูเหมือนจะร่วงลงต่อไปอีก แต่ช่วงแนวโน้มขาลงดูเหมือนจะถูกจำกัด เว้นแต่ว่าตัวเลขค่าดัชนี CPI ของสหรัฐฯจะเสนอตัวเลขที่แข็งแกร่งมากในเดือนสิงหาคม
